พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)

พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)
พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)
รหัสสินค้า 001014
หมวดหมู่ พระบูชา
ราคา 0.00 บาท
คงเหลือ 0 ชิ้น
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

#พระวุฒิจิตรลดามหามงคล ปี2542 หน้าตัก 3.5นิ้ว(อีก1ของดีที่หายาก)

-ในปี2542 เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่9 ครบ6รอบ 72พรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎจัดสร้าง  "พระวุฒิจิตรลดามหามงคล"  เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งบนฐานบัวหงายด้านหน้าฐานติดพระผงจิตรลดาปี 2530 ไว้ หนึ่งองค์ ขนาด หน้าตัก 3.5 นิ้ว ฐาน 4.5 นิ้ว สูง 6 นิ้ว ด้านหลังมี หมายเลขประจำองค์และปีที่จัดสร้าง

-ด้านหน้าฐานประดิษฐาน พระพุทธนวราชบพิตร ปี2530 ไว้หนึ่งองค์ พระพุทธนวราชบพิตรองค์นี้ได้รับพระราชทานมวลสารสำคัญคือเส้นเกษารัชการที่9 และมวลสารจิตรลดาในการจัดสร้าง

-“พระวุฒิจิตรลดามหามงคล” ได้ต้นแบบการจัดสร้างมาจากพระพุทธนวราชบพิตรองค์ที่ในหลวงรัชการที่9ทรงพระราชทานให้ไว้ทั่วราชอาณาจักรไทยนั้นเอง ส่วนใต้ฐานบรรจุสิ่งเป็นมงคลและเทปูนทับไว้ พิธีใหญ่ หายาก มีหมายเลขประจำองค์กำกับไว้ทุกองค์ และส่วนมากพระชุดนี้จะอยู่กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เกือบทั้งหมดมีหมุนเวียนให้เห็นน้อยมาก

 

ประวัติองค์พระที่ติดประทับอยุ่ที่ฐานด้านหน้าของ “พระวุฒิจิตรลดามหามงคล”

สมเด็จจิตรลดา (ฉลอง 5 รอบ ในหลวง ปี 2530)

พระสมเด็จจิตรลดา (พระพุทธนวราชบพิตรฯ) ภปร. พ.ศ. 2529-2530 วัดบวรฯ 

1. พระเครื่องชุดนี้ ได้รับพระราชทานพระนามว่า พระพุทธนวราชบพิตรซึ่งเป็นพระนามเดียวกันกับ "สมเด็จจิตรลดา" 
2. เป็นพระที่มีพระพุทธลักษณะ เดียวกันกับ "สมเด็จจิตรลดา" 
3. มวลสารผงจิตรลดา พระราชทานพร้อมกัน กับพระกริ่งปวเรศ ปี 30 และเป็นมวลสาร ชุดเดียวกันกับที่ใส่ในรูกริ่ง พระกริ่งปวเรศปี 30 
4. เข้าพิธี พุทธาภิเศก พร้อมกันกับ "พระกริ่งปวเรศปี 30" 
5. ด้านหลังประทับตรา "ภปร." 

 

พระจิตรลดา "พระพุทธนวราชบพิตร" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานผงจิตรลดา ผสมเส้นพระเจ้าในการจัดสร้างพระผง "พระพุทธนราชบพิตร" และมีพระบรมราชานุญาติให้ จารึกพระปรมาภิไทย ภปร. ด้านหลังองค์พระ 

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ในการประกอบพิธี ณ.วัดบวรฯ ในวันเสาร์ ที่ 12 เมษายน 2529 


สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธาน พิธีอธิฐานจิต โดยมีพระอาจารย์ ผู้ทรงศีลาจริยวัตร ร่วมพิธี ดังนี้ 

พระญาณโพธิ์ (เข็ม) วัดสุทัศน์ 
ลป. เมฆ วัดลำกระดาน 
ลพ. สิม วัดถ้ำผาปล่อง 
ลพ. สำเนียง วัดเวฬุวนาราม 
ลพ. พุธ ฐานิโย 
ลพ. มงคลธรรมสุนทร วัดบางนา 
ลพ. เกตุ วัดเกาะหลัก 
ลพ. พรหม วัดขนอนเหนือ 
ลพ. หยอด วัดแก้วเจริญ 
ลพ. พูล วัดไผ่ล้อม 
ลพ. แช่ม วัดดอนยายหอม 
ลพ. ไพฑูรย์ วัดโพธินิมิต ฯลฯ 
เป็นต้น 


(พิธีเดียวกัน พร้อมกันกับ พระกริ่งปวเรศปี30 ) 



ประวัติองค์พระที่เป็นพุทธศิลป์ต้นแบบในการจัดสร้าง “พระวุฒิจิตรลดามหามงคล”

 พระพุทธนวราชบพิตร

 
พระพุทธนวราชบพิตรเป็นพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริสร้างขึ้น เพื่อเป็นนิมิตหมายแห่งความผูกพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระหว่างองค์พระมหากษัตริย์ กับพสกนิกรของพระองค์
 
พระพุทธนวราชบพิตรมีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกับพระพุทธรูป ภ.ป.ร.ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว ต่างกันตรงที่พระพุทธรูป ภ.ป.ร. เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร แต่พระพุทธวราชบพิตรเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย กล่าวคือ พระหัตถ์ขวา แทนที่จะพาดหงายบนพระเพลา กลับเป็นพาดคว่ำบนพระเพลา ดังพระพุทธรูปปางมารวิชัยโดยทั่วไป
 
นอกจากนี้ มีส่วนฐานที่มีความแตกต่างกันมาก โดยพระพุทธรูปนวราชบพิตรประทับนั่งอยู่บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย (บัวสองชั้น) แต่บัวออกจะกลีบใหญ่กว่าฐานพระพุทธรูป ภ.ป.ร. และมิได้มีฐานเท้าสิงห์รองรับ ปราศจากผ้าทิพย์ประดับที่ฐานดังเช่นพระพุทธรูป ภ.ป.ร.
 
ประการสำคัญก็คือ พระพุทธนวราชบพิตรจะต้องมี “พระสมเด็จจิตรลดา” ประดับไว้ที่ฐานบัวหงายตรงกึ่งกลางกลีบยัวที่อยู่ตรงกลาง ๑ องค์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้นด้วยพระหัตถ์ ประกอบด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่ได้มาจากปูชนียสถานสำคัญทั่วประเทศ ผสมด้วยผงส่วนพระองค์ เฉพาะอย่างยิ่งเส้นพระเจ้า
 
ทั้งนี้ ก็ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ ให้พระพุทธนวราชบพิตรเป็นที่สถิต ศูนย์รวมของบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ได้มาจากทุกจังหวัดตลอดทั่วพระราชอาณาจักร เป็นจุดรวมของชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง
 
ผู้ได้บูชาสักการะพระพุทธนวราชบพิตรองค์เดียว ก็เท่ากับได้ท่องเที่ยวไปนมัสการปูชนียสถานมาถ้วนทั่วทุกแห่งในเมืองไทย
 
พระพุทธนวราชบพิตรมีขนาดหน้าตักกว้าง ๒๓ ซม. (๙ นิ้ว) สูง ๔๐ ซม. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรดให้ นายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ข้าราชการกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เข้าไปปั้นหุ่นถวายถึงในพระราชฐาน ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ได้ทรงตรวจตากำกับการปั้นหุ่น พุทธลักษณะของพระปฏิมาอย่างใกล้ชิด จนเป็นที่พอพระราชหฤทัยแล้ว จึงได้โปรดให้หล่อขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ พร้อมกับได้พระราชทานพระนามว่า “พระพุทธนวราชบพิตร”
 
 
 
พระพุทธนวราชบพิตรเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดขอบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นนิมิตหมายแห่งความผูกพัน ระหว่างองค์พระมหากษัตริย์กับพสกนิกรของพระองค์ในทุกจังหวัดตลอดทั่วพระราชอาณาจักร
 
พระพุทธนวราชบพิตรจึงเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่ง ในรัชกาลปัจจุบัน อันเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมีมาในบ้านเมืองของเรามาก่อน นับเป็นอนุสรณ์สำคัญยิ่งเนื่องในพระองค์ ที่ทรงมีพระราชปรารถนาดีต่อพสกนิกรของพระองค์ทั่วหน้าอีกทั้งยังเป็นการยกย่องเทิดทูนพระพุทธศาสนาด้วยการสร้างพระพุทธปฏิมา อันเป็นอุทเทสิกเจดีย์ ปูชนียวัตถุสูงสุดแทนองค์สมเด็จพระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธเราให้ความเคารพกันอย่างสูงสุด เป็นประธานในพิธีกรรมทั้งปวง ให้เป็นที่ปรากฏอยู่สืบไป ตราบชั่วกาลนาน
 
ระเบียบปฏิบัติ ด้วยเหตุที่พระพุทธนวราชบพิตรเป็นพระพุทธรูปสำคัญยิ่ง เป็นมิ่งขวัญของแต่ละจังหวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้แก่พสกนิกรของพระองค์ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่ ดังได้กล่าวมาแล้ว ทางสำนักพระราชวงจึงได้วางระเบียบปฏิบัติ เกี่ยวกับพระพุทธนวราชบพิตรไว้หลายประการ อาทิ เมื่อจังหวัดใดได้รับพระราชทานไปแล้ว ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่ศาลากลางจังหวัด เมื่อทางจังหวัดจัดงานพิธีใดๆ ก็ให้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้เป็นประธานในพิธีนั้นๆ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดเพื่อทรงเป็นประธานในพระราชพิธี หรือพิธีของทางจังหวัด ก็ให้อัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ในพระราชพิธีหรือในพิธีนั้นๆ ทุกครั้ง
 
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปประทับแรมยังจังหวัด ให้ทางจังหวัดอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ ณ ที่บูชาในพลับพลา หรือในที่ประทับแรมตลอดเวลาที่ประทับอยู่ และให้อัญเชิญกลับไปยังศาลากลางจังหวัด เมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว ฯลฯ
 
นอกจากนี้ ยังมีบทสวดพิเศษ ชื่อว่า “ชยมังคลคาถา” สำหรับให้พระสงฆ์สวด ในพิธีพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรประจำจังหวัด ไว้โดยเฉพาะอีกด้วย
 
อนึ่ง กระทรวงมหาไทยยังได้ออกระเบียบไว้ เมื่อปี ๒๕๑๐ ชื่อว่า “แนวพิธีการพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร” สำหรับให้แต่ละจังหวัด ได้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เมื่อได้รับพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรไว้อีกโสดหนึ่งด้วย
 
จังหวัดแรกที่ได้รับพระราชทาน
 
จังหวัดแรกที่ได้รับพระมหากรุณาพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ก็คือจังหวัดหนองคาย ซึ่งได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ในโอกาสนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำรัสแก่ชาวจังหวัดหนองคาย มีความสำคัญที่ขออัญเชิญมาเฉพาะบางตอน ดังนี้
 
“ข้าพเจ้ามาเยี่ยมท่านคราวนี้ ได้นำพระพุทธนวราชบพิตรมามอบให้ด้วย พระพุทธรูปองค์นี้ข้าพเจ้าสร้างขึ้นเพื่อมอบไว้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ที่ฐานบัวหงายข้าพเจ้าได้บรรจุพระพิมพ์องค์หนึ่ง ซึ่งทำขึ้นด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ อันได้มาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร... ฯลฯ...”
 
“...พระพุทธนวราชบพิตรองค์นี้ นอกจากจะถือว่าเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพสูงสุดแล้ว ข้าพเจ้ายังถือเสมือนเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของประเทศไทย และความสามัคคีกลมเกลียวกันของประชาชนชาวไทยอีกด้วย ข้าพเจ้าจึงได้บรรจุพระพิมพ์ที่ทำขึ้นด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ทั่วราชอาณาจักรดังกล่าว และนำมามอบให้แก่ท่านด้วยตนเอง”
 
“ขออนุภาพแห่งพระพุทธนวราชบพิตร จงปกปักรักษาท่านให้พ้นจากทุกข์ภัยทุกๆประการ บันดาลให้เกิดความสุขสวัสดี มีความก้าวหน้ารุ่งเรืองในการประกอบอาชีพ และมีความสมัครสมานกัน ในอันที่จะร่วมกันสร้างเสริมความมั่นคง และความเจริญก้าวหน้าให้แก่บ้านเมืองของเราสืบไป”
 
พระพุทธนวราชบพิตรจึงเป็นพระพุทธรูปสำคัญยิ่งแห่งยุค ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานไว้ ให้เป็นมิ่งขวัญแก่บรรดาชาวพุทธในราชอาณาจักรไทย สืบไปชั่วกาล
 
 
ภาพและข้อมูลจาก
สารานุกรมพระ http://www.mac.in.th/~pra/sara_05_0004.html
ข้อมูลจาก
ลานธรรมเสวนา  http://larndham.net/index.php?showtopic=14359&st=6
 
 

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็ลทรัล รัตนาธิเบศร์ ออมทรัพย์

CATEGORY

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม3,840,267 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด2,450,682 ครั้ง
เปิดร้าน25 เม.ย. 2558
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

CONTACT US

086-666-2757
เพิ่มเพื่อน
พูดคุย-สอบถาม