พระกริ่งพุทธอุดมสมบูรณ์(พระปุ้มปุ้ย)รุ่นแรก เนื้อนวโลหะเต็มสูตร วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2535 แขวนบูชาไม่มีอดอยาก มีความอุดมสมบูรณ์สมตามลักษณะและมงคลนามตามชื่อ ตามปรารถนา(1ใน2000องค์)หายาก

#พระกริ่งพุทธอุดมสมบูรณ์(พระปุ้มปุ้ย) รุ่นแรก
เนื้อนวโลหะเต็มสูตร วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2535
แขวนบูชาไม่มีอดอยาก มีความอุดมสมบูรณ์
สมตามลักษณะและมงคลนามตามชื่อ
ตามปรารถนา
(1ใน2000องค์)หายาก

-พระกริ่งพุทธอุดมสมบูรณ์(รุ่นแรก) ขนาดฐาน 1.2X1.9ซม. เนื้อนวโลหะ จำนวนสร้าง 2000 องค์ ปี พ.ศ.2535 เป็นพระกริ่งรุ่นนิยมของสมเด็จพระวันรัตอีกรุ่นเนื่องจากสร้างได้สวยงามรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ของวัดบวรนิเวศวิหาร องค์พระกริ่งอ้วนท้วนสมบูรณ์ขนาดเล็กน่ารัก แขวนบูชาไม่มีอดอยาก มีความอุดมสมบูรณ์ตามชื่อมงคลนาม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงทำพิธีบวงสรวงด้วยพระองค์เอง

-วงการและผู้ถือครองที่มีประสบการณ์ในการอาราธนาใช้เรียกว่า พระกริ่งปุ้มปุ้ย จากพิมพ์ทรงอ้วนท้วนสมบูรณ์ ขนาดเล็กน่ารัก เนื้อนวะโลหะเต็มสูตรกลับดำตามตำรับวัดบวรฯ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงทำพิธีบวงสรวงด้วยพระองค์เอง จัดสร้างเป็นรุ่นแรกเนื้อนวะโลหะจำนวนเพียง 2000 องค์

สำหรับศิษย์สาย วัดบวรนิเวศวิหาร ขอแนะนำให้รีบเก็บกันนะครับ.... บูชาแล้วจะอุดมสมบูรณ์สมตามลักษณะและมงคลนามตามชื่อ

ตามปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต

และคาดกันว่ารุ่นนี้ จะเป็นรุ่นที่นิยมแสวงหากันมากที่สุดในอนาคตอันไม่ไกล้ไม่ไกลจากนี้ครับ....ต้องรีบเก็บกันครับ...

 เมื่อปี2533 ขณะสมเด็จพระวันรัตดำรงสมณศักดิ์ที่พระราชสุมนต์มุนี ได้เดินทางไปเมืองซัวเถา ประเทศจีน ได้รับพระพุทธรูปงาแกะองค์หนึ่ง ขนาด 2นิ้ว มีพระพุทธลักษณะงดงาม ไม่เหมือนพระพุทธรูปศิลปะจีนทั่วไป ต่อมาปี2534 ได้จำลองขนาดเท่าองค์จริง สร้างจำนวน 200องค์ มีผู้พบเห็นต่างชอบใจพากันมาขอ เรียกตามลักษณะของพระ ซึ่งอ้วนท้วนสมบูรณ์ว่า พระปุ้มปุ้ย จึงได้ถวายนามว่า พระพุทธอุดมสมบูรณ์ สมตามลักษณะเป็นมงคลนาม

พระกริ่งพุทธอุดมสมบูรณ์รุ่นแรก วัดบวรนิเวศ จัดสร้างเมื่อปี 2535 บางท่านเรียกพระกริ่งปุ้มปุ้ย เนื่องจากพิมพ์ทรงอ้วนท้วนสมบูรณ์ ขนาดเล็กน่ารัก ฐาน 1.2X1.9ซม. โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงทำพิธีบวงสรวงด้วยพระองค์เองจัดสร้างเป็นรุ่นแรก คือ

-เนื้อทองคำ         500   องค์

-เนื้อเงิน              500   องค์

-เนื้อนวะโลหะ.    2000   องค์

นอกจากนี้ ก็มีการจัดสร้างพระบูชาพระพุทธอุดมสมบูรณ์

 ขนาดฐานบัวกว้าง 3.3ซม. สูง 5.3ซม. เท่าองค์จริง

 -เนื้อทองคำ                         7     องค์

-เนื้อเงิน                             28    องค์

-เนื้อนวโลหะ                      300   องค์

-เนื้อสัมฤทธิ์ขนาดหน้าตัก       5 นิ้ว        500  องค์

 -เนื้อสัมฤทธิ์ขนาดหน้าตัก       3 นิ้ว     1,000  องค์

        ในการจัดสร้างพระแต่ละครั้งนั้น สมเด็จพระวันรัตจะให้ความสำคัญทุกขั้นตอน การหล่อพระกริ่งด้วยเนื้อโลหะ 9 ชนิด หรือที่เรียกว่า นวโลหะนั้น เป็นการหล่อที่มีขึ้นตอนที่ยุ่งยากสลับซับซ้อน ช่างที่หล่อต้องมีประสบการณ์และความประณีต โดยเฉพาะการหล่อที่เรียกว่า “เทดินไทย” ทั้งนี้จะต้องใช้เวลาทำหุ่นและเข้าดิน ขณะเดียวกันผู้จัดสร้างนั้นต้องมีศรัทธาแรงกล้าเสียสละทุนทรัพย์ เพราะโลหะที่ให้เนื้อพระกลับดำและมีประกายสีเงินขาวอยูในเนื้อโลหะนั้น     โดยมีส่วนผสมที่สำคัญนั้น คือ ทองคำ ซึ่งเป็นโลหะที่มีราคาแพงที่จะต้องผสมไปตามส่วน ประมาณการว่าต้องใช้ทองคำหนัก 2 บาทต่อโลหะผสมอื่น 1 กิโลกรัม

พระพุทธอุดมสมบูรณ์ พระพุทธรูป ที่ วิหารพระพุทธอุดมสมบูรณ์ วัดคีรีวิหาร จ.ตราด



ประวัติพระพุทธอุดมสมบูรณ์ (พระปุ้มปุ้ย)

       เมื่อครั้งที่สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระพรหมมุนี ได้เป็นผู้อำนวยการสร้างพระกริ่งวัดบวรฯ ในโอกาสต่างๆ หลายครั้ง ปรากฏว่าได้รับความศรัทธา และนิยมจากสาธุชนเป็นอันมาก เช่น พระกริ่งสุวัฑฒโน,พระกริ่งบวรรังสี,พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ปวเรศ รุ่น2 ปี2530เป็นต้นและเป็นที่รู้กันในหมู่ลูกศิษย์ว่า สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหมฺคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร องค์ปัจจุบัน ท่านนิยมสร้างพระกริ่งพระพุทธอุดมสมบูรณ์ ในวาระต่างๆ อยู่เสมอ

       เมื่อปี ๒๕๓๓ ขณะสมเด็จพระวันรัตดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชสุมนต์มุนี ได้รับพระพุทธรูปงาแกะขนาดเล็ก ศิลปะแบบจีน จากเมืองซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีน พระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักจากงาช้างด้วยฝีมือช่างชั้นเยี่ยม เป็นพระพุทธรูปแบบขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายถือลูกแก้ว ลำพระองค์อวบอ้วน ประทับนั่งบนฐานบัวสองชั้น แสดงถึงความสุขสมบูรณ์ทางร่างกาย อันหมายถึงความมั่งมีและสมบูรณ์พร้อมด้วยความสุข พระเดชพระคุณท่านจึงได้ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระพุทธอุดมสมบูรณ์”

หลังจากนั้น พระเดชพระคุณท่านได้จัดสร้างพระกริ่ง ซึ่งจำลองแบบสร้างจากพระพุทธอุดมสมบูรณ์ อีกหลายต่อหลายรุ่น ซึ่งเรียกกันว่า “พระกริ่งพระพุทธอุดมสมบูรณ์” และจากรูปลักษณะขององค์พระที่มีลักษณะอวบอ้วนอุดมสมบูรณ์ จึงมักเรียกกันในบรรดาหมู่ลูกศิษย์ว่า “พระกริ่งปุ้มปุ้ย”

 ในหนังสือ “ประวัติพระกริ่งพระพุทธอุดมสมบูรณ์” ตอนท้ายหนังสือ ได้ตีพิมพ์ คาถาบูชาพระพุทธอุดมสมบูรณ์ เอาไว้ ซึ่งคาถาดังกล่าวคือ ธรรมะว่าด้วย อริยทรัพย์ ๗ หรือ ทรัพย์อันประเสริฐ ๗ ประการ อันได้แก่

ศรัทธา (เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ เชื่อในกฎแห่งกรรม เชื่อในธรรมะของพระพุทธเจ้า),

ศีล (รักษากายวาจาให้ดี),

หิริ (ละอายต่อบาป),

โอตตัปปะ (เกรงกลัวต่อบาป),

สุตะ (การฟังธรรม รวมถึงการอ่าน),

จาคะ (บริจาคเพื่อลดตระหนี่)

และปัญญา (รู้จักเหตุและผลตามความเป็นจริง)

ท่านกล่าวเอาไว้ว่า ผู้ใดมีอริยทรัพย์ ผู้นั้นย่อมเป็นคนมั่งมี เป็นผู้ไม่จน ชีวิตย่อมไม่สูญเปล่า ทรัพย์อื่นใด หามาแล้วนำไปซื้ออย่างอื่นก็ย่อมหมดไป แต่อริยทรัพย์ ได้มาแล้วไปซื้อคุณธรรมอื่นๆ ก็ไม่มีวันหมดสิ้น

คาถาบูชาพระพุทธอุดมสมบูรณ์

(ตั้ง นะโม ๓ จบ)

สัทธาธะนัง สีละธะนัง หิริโอตตัปปิยัง ธะนัง

สุตะธะนัญจะ จาโค จะ ปัญญา เว สัตตะมัง ธะนัง

ยัสสะ เอตา ธะนา อัตถิ อิตถิยา ปุริสัสสะ วา

อะทะลิทโทติ ตัง อาหุ อะโมฆัง ตัสสะ ชีวิตัง ฯ

(๓ จบ)

สำหรับคำแปลของคาถานี้ ขอนำส่วนหนึ่งจากเทศนากัณฑ์ “อริยทรัพย์” โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ เมื่อครั้งบรรพชาเป็นสามเณรพรรษาแรก ที่วัดเทวสังฆาราม จ.กาญจนบุรี เป็นเทศน์กัณฑ์แรกในชีวิตของพระองค์ท่าน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ ดังนี้

“ทรัพย์คือสัทธา ทรัพย์คือศีล ทรัพย์คือหิริ ทรัพย์คือโอตตัปปะ

ทรัพย์คือสุตะ ทรัพย์คือจาคะ ทรัพย์คือปัญญาเป็นที่ ๗

ทรัพย์เหล่านี้มีอยู่แก่บุคคลผู้ใด จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม

บัณฑิตกล่าวผู้นั้นว่าเป็นผู้ไม่จน แลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้นั้นไม่เปล่า”

สมเด็จพระวันรัต ท่านเป็นพระเถระ ผู้ซึ่งสอนธรรมะแทรกลงไปในทุกเรื่องเสมอ ท่านเคยสอนผมว่า เวลาสวดมนต์ ให้เลือกสวดบทที่มีธรรมะด้วย จะได้ทั้งศรัทธาและปัญญาไปพร้อมกัน ดังนั้น พระเครื่องที่ท่านสร้างขึ้น จึงแฝงหลักการนี้ไปด้วย นั่นคือ คนส่วนใหญ่บูชาพระเครื่องด้วยศรัทธา หวังพึ่งอำนาจบารมีของพระเครื่องมาคุ้มครองและส่งเสริมตัวเรา ชื่อพระกริ่งพระพุทธอุดมสมบูรณ์ ก็เช่นกัน บรรดาลูกศิษย์ส่วนใหญ่ต่างบูชามุ่งหวังจะเคล็ดว่า บูชาพระแล้ว ตัวเราเองจะเกิดความอุดมสมบูรณ์ดังเช่นชื่อของพระ สมเด็จพระวันรัตจึงมอบคาถาอริยทรัพย์มาให้สวดบูชา เพื่อที่ผู้สวดจะได้รับธรรมะที่อยู่ใน อริยทรัพย์ ไปพร้อมกัน จะได้เกิด ปัญญา ที่จะมองเห็นว่า ทรัพย์สำคัญที่สุดที่เราควรสะสม ก็คือ อริยทรัพย์ นั่นเอง

ที่มาโดย พงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/213186