พระผงพระศาสดา หลัง ภปร. พิมพ์ใบเสมา วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2532 จัดสร้างในโอกาสสองทศวรรษรามาธิบดี เพื่อศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ เนื้อผงพุทธคุณ มวลสารจิตรลดาพระราชทาน เส้นพระเกศาสมเด็จพระสังฆราช(พิธีใหญ่ มวลสารมงคล สวยงามเข้มขลัง)พร้อมกล่องบรรจุเดิม

#พระผงพระศาสดา หลัง ภปร.
พิมพ์ใบเสมา วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2532
จัดสร้างในโอกาสสองทศวรรษรามาธิบดี
เพื่อศูนย์การแพทย์สิริกิติ์
เนื้อผงพุทธคุณ มวลสารจิตรลดาพระราชทาน
เส้นพระเกศาสมเด็จพระสังฆราช
(พิธีใหญ่ มวลสารมงคล สวยงามเข้มขลัง)พร้อมกล่องบรรจุเดิม

+พระศาสดา ภ.ป.ร รุ่นนี้ สร้างเมื่อปีที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช รับสถาปนาเป็นตำแหน่งที่"สมเด็จพระสังฆราช" ใหม่ๆ เมื่อปี 2532 ฉะนั้นจึงเรียกว่าเป็นวัตถุมงคลที่สร้างในพระนาม"สมเด็จพระสังฆราช" ครั้งแรก

+พระผงพระศาสดา หลัง ภปร. พิมพ์ใบเสมา วัดบวร ปี2532 จัดสร้างด้วเนื้อผงพุทธคุณ มวลสารจิตรลดาพระราชทาน เส้นพระเกศาสมเด็จพระสังฆราช ดินจากสังเวชนียสถาน ประเทศอินเดียและศรีลังกา พระอังสะของสมเด็จพระสังฆราช ดอกไม้บูชาหน้าพระศาสดาและพระพุทธชินสีห์ในพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร ผงธูปหน้าพระศาสดาและพุทธชินสีห์ ด้ายสายสิญจน์โยงจากพระศาสดามายังพระพุทธที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงจับในวันพิธีเททองพระศาสดา ภ.ป.ร. ผงตะไบจากพระองค์พระกริ่งและเหรียญหล่อพระศาสดา ภ.ป.ร ผงมงคลจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วประเทศ มูลนิธิรามาธิบดีผู้จัดสร้าง 

พระศาสดา ภปร. ปี2532 วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ พ.ศ.2532 สร้างเนื่องในโอกาสครบสองทศวรรษโรงพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ เนื้อชนวนโลหะที่นำมาหลอม นอกจากแผ่นอักขระยันต์และชนวนโลหะมงคลจำนวนมากแล้ว สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานลงอักขระแผ่นทอง แผ่นนาก และแผ่นเงิน อย่างละ 5 แผ่น เพื่อนำมาหล่อหลอมเป็นองค์พระกริ่งศาสดา พิธีเททองโดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประกอบพิธีเททองหล่อพระศาสดาชุดนี้หน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร วันพฤหัสบดี ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 11 พฤษภาคม 2532 เวลา 13.18 น. อันเป็นราชาฤกษ์และได้เกณฑ์เพชรฤกษ์และธนโยค พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัดบวรนิเวศ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธาน

  สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้ทรงประธานให้ โดยนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2532 โดยมีประธานฝ่ายสงฆ์ คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงจุดเทียนชัย เมื่อเวลา 18.30 น. อันเป็นบูรณฤกษ์ (ภูมิปาโล) และทรงแผ่เมตตาจิตให้จนเสร็จพิธี มีพระสงฆ์เจริญ พระพุทธมนต์ 10 รูป สวดพุทธาภิเษก 4 รูปและมีพระเกจิคณาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตอีก 9 รูป มีหลวงพ่อุตตมะ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต เป็นอาทิ

     พระศาสดาท่านได้ชื่อว่าเป็น"พระหมอ" ส่วน ใหญ่จะมีคนไปขอบนกับท่านแล้วจะหายทุกราย หากการอธิษฐานนั้นไม่เกินกรรม ทางโรงพยาบาลรามาจึงนำรูปท่านมาสร้างเพื่อหมายให้ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยได้ นำไปบูชาในการสร้างนั้นสร้างขึ้นโดยคณะแพทย์ศาสตร์ของโรงพยาบาลรามาเองซึ่งเป็นส่วน หนึ่งของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดีในการจัดสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อดำเนินการหาทุนเพื่อตั้งเป็นกองทุนผู้ป่วยที่ยากไร้ และก่อสร้างศูนย์การแพทย์สิริกิติ์

     ในที่นี้จะพูดถึงพระศาสดาหลัง ภ.ป.ร. และความพิเศษที่น่าสนใจดังนี้

1. มีปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.ขององค์พระมหากษัตริย์ ผู้เป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย ประดิษฐ์อยู่ด้านหลังขององค์พระศาสดาเป็นครั้งแรก

2. มีประธานฝ่ายสงฆ์ คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นประธานอุปการคุณฝ่ายสงฆ์

3. รายได้ที่เกิดขึ้นนำมาใช้ในกองทุนผู้ป่วยยากไร้ และสร้างอาคารรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดี

        พระชุด พระศาสดาภ.ป.ร สร้างเมื่อปีที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช รับสถาปนาเป็นตำแหน่งที่"สมเด็จพระสังฆราช" ใหม่ๆ เมื่อปี 2532 เรียกว่าเป็นวัตถุมงคลที่สร้างในพระนาม"สมเด็จพระสังฆราช" ครั้งแรกก็ว่าได้

"มูลนิธิรามาธิบดี"

ผมรู้สึกคุ้นๆ กับชื่อนี้ครับ

แล้วผมก็นึกได้ว่าที่มูลนิธิรามาธิบดีนี้เคยเป็นผู้จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นหนึ่ง

ของสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช นั่นคือ พระชุด พระศาสดาภ.ป.ร

เมื่อปีที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชท่านสมโภชน์ตำแหน่งที่

"สมเด็จพระสังฆราช" ใหม่ๆ เมื่อปี 2532 เรียกว่าเป็นวัตถุมงคลที่สร้างในพระนาม

"สมเด็จพระสังฆราช" ครั้งแรกก็ว่าได้

ผมเดินเข้าไปในมูลนิธิสอบถามก็ได้ความวัตถุมงคลยังเหลือครบทุกอย่างทั้ง

พระบูชาสาสดา พระกริ่งศาสดา พระใบเสมาศาสดา ทั้งพระเนื้อโลหะและพระผง

ราคาค่าทำบุญบูชาก็ได้ข่าวว่าขึ้นมาพอสมควรตามราคาทองคำ (ล้อเล่น)

เพราะยกตัวอย่างพระพิมพ์ใบเสมาเนื้อนวโลหะ เมื่อก่อนทำบุญ 500 บาท

ปัจจุบันค่ำทำบุญบูชา ประมาณ 4,999 บาท พระผงพระศาสดา ภ.ป.ร. ใบเสมา

เนื้อผงที่เมื่อก่อนมี2 แบบ คือแบบข้างหลังฝังเกศาของสมเด็จพระญาณสังวร

กับแบบข้างหลังฝังเกศากับโรยด้วยผงตะไบพระกริ่ง ซึ่งเมื่อก่อน แบบที่ฝังเกศา

นี้ราคาทำบุญ 200 บาท ปัจจุบันราคาค่าทำบุญ 999บาท ส่วนแบบฝังเกศา

โรยผงตะไบพระกริ่งเมื่อก่อนให้ทำบุญ 500 บาท ปัจจุบันไม่มีให้ทำบุญแต่อย่างใด

ที่ผมออกจะให้ความสำคัญกับพระพิมพ์ศาสดานี้เพราะว่าพระศาสดาท่านได้ชื่อว่าเป็น

"พระหมอ" ส่วนใหญ่จะมีคนไปขอบนกับท่านแล้วจะหายทุกราย หากการอธิษฐาน

นั้นไม่เกินกรรมทางโรงพยาบาลรามาจึงนำรูปท่านมาสร้างเพื่อหมายให้ผู้ป่วยและญาติ

ผู้ป่วยได้นำไปบูชา

ในการสร้างนั้นสร้างขึ้นโดยคณะแพทย์ศาสาตร์ของโรงพยาบาลรามาเองซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง

ของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดีในการจัดสร้างวัตถุมงคลบชุดนี้เพื่อ

ดำเนินการหาทุนเพื่อตั้งเป็นกองทุนผู้ป่วยที่ยากไร้ และก่อสร้างศูนย์การแพทย์สิริกิติ์

ในที่นี้จะพูดถึงพระศาสดาหลัง ภ.ป.ร.เนื้อผง และความพิเศษที่น่าสนใจดังนี้

1. มีปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.ขององค์พระมหากษัตริย์ ผู้เป็นที่รักยิ่งของประชาชน

ชาวไทย ประดิษฐ์อยู่ด้านหลังขององค์พระศาสดาเป็นครั้งแรก

2. มีประธานฝ่ายสงฆ์ คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็น

ประธานอุปการคุณฝ่ายสงฆ์

3. รายได้ที่เกิดขึ้นนำมาใช้ในกองทุนผู้ป่วยยากไร้ และสร้างอาคารรักษาผู้ป่วย

ของโรงพยาบาลรามา

พระศาสดาเนื้อผง ภ.ป.ร.เป็นพระพิมพ์หนึ่งที่สวยงามยิ่งทั้งเนื้อหามวลสารและ

รูปทรง อีกทั้งยังเป็นรายได้ทำบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ด้วย

แม่พิมพ์แกะโดยอาจารย์จินดา สุขโพธิ์ใช้เวลาถึง 2 เดือน เพื่อให้พิมพ์ทรงลึกคมชัด

มีลักษณะเป็นองค์พระศาสดาประทับบนฐานกลีบบัวคว่ำบัวหงาย รอบพระเศียรมีรัศมี

19 แฉก แฉกที่ 19 อยู่ตรงพระเกศ ปลายพุ่งตรงชี้ไปที่ส่วนยอดของใบเสมา

ความหมายของเสมาคือพุทธอาณาจักร รัศมีที่ 19 เป็นการรำลึกถึงองค์

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างจำนวน 3 หมื่นองค์

นอกจากพระศาสดา ภ.ป.ร.พิมพ์ใบเสมาเนื้อผงนี้ จะระลึกถึงสมเด็จพระสังฆราชแล้ว

เนื้อหามวลสารก็น่าสนใจ เพราะประกอบด้วย

1. ผงพุทธคุณและผงจิตรลดาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานไว้ให้

เมื่อคราวสร้างสมเด็จพิมพ์จิตรลดาของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

2. ดินจากสังเวชนียสถาน ประเทศอินเดียและศรีลังกา

3. พระอังสะ

4. เส้นพระเกศาของสมเด็จพระสังฆราช

5. ดอกไม้บูชาหน้าพระศาสดาและพระพุทธชินสีห์ในพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร

6. ผงธูปหน้าพระศาสดาและพุทธชินสีห์

7. ด้ายสายสิญจน์โยงจากพระศาสดามายังพระพุทธที่สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงจับในวันพิธีเททองพระศาสดา ภ.ป.ร.

8. ผงตะไบจากพระองค์พระกริ่งและเหรียญหล่อพระศาสดา ภ.ป.ร.

9. ผงมงคลจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วประเทศ

สำหรับรายการที่ 1-4 นั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

สกลมหาสังฆปรินายก ได้ทรงประธานให้ เพื่อนำมาสร้างพระศาสดาเนื้อผงครั้งนี้

พระทุกองค์ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่

24 สิงหาคม พ.ศ. 2532 โดยมีประธานฝ่ายสงฆ์ คือ สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงจุดเทียนชัย เมื่อเวลา 18.30 น.

อันเป็นบูรณฤกษ์ (ภูมิปาโล) และทรงแผ่เมตตาจิตให้จนเสร็จพิธี มีพระสงฆ์เจริญ

พระพุทธมนต์ 10 รูป สวดพุทธาภิเษก 4 รูปและมีพระเกจิคณาจารย์ร่วม

อธิษฐานจิตอีก 9 รูป มีหลวงพ่อุตตมะ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม

หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต เป็นอาทิ

ในการจัดสร้างนั้นจัดสร้างเป็นการภายในคือไม่ได้ทำการสร้างที่โรงงานแต่ประการใด

หากแต่เปลี่ยนตึกคณะแพทย์ศาสตร์ของทางโรงพยาบาลมาเป็นที่สร้าง

พระพิมพ์นี้และมียามเฝ้าอย่างแน่นหนากันบุคคลนำวัตถุมงคลที่สร้างแล้วออกไป

สำหรับพิมพ์พระผงนี้จะมีการปั๊มตรา "ญสส" หมายถึง พระนาม ของสมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช ด้วยหมึกพิเศษ สีน้ำเงินดังภาพ ประกอบ

หลังจัดให้บูชาครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2532 นั้น มีผู้มาขอรับไปบูชาเป็นจำนวนมาก

เมื่อผ่านระยะเวลาพอสมควร คณะกรรมการเห็นว่าจำนวนพระได้แพร่กระจายไปสู่ประชาชน

อย่างเพียงพอแล้ว จึงได้หยุดให้บูชา และนำองค์พระที่เหลือเก็บรักษาไว้อย่างดี

ต่อมาก็มีข่าวดีสำหรับผู้ที่ศรัทธาอยากจะได้มาไว้บูชา ในวโรกาสที่พระบาท

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา เพื่อเป็นการฉลองใน

โอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ทางมูลนิธิรามาธิบดี จึงได้นำพระศาสดา ภ.ป.ร.พิมพ์ใบเสมา

ออกมาให้ประชาชนได้นำไปสักการบูชา เก็บรักษาวัตถุมงคลนี้อีกครั้ง

ด้วยพระผงศาสดาใบเสมานี้ได้สร้างประสบการณ์อย่างมากมายทั้งเมตตา โชคลาภ

แคล้วคลาด นับว่าเป็นวัตถุมงคลที่ดีมากอีกรุ่นหนึ่ง นอกจากจะได้ของดีแล้วยังได้

ทำบุญกับมูลนิธิรามาธิบดีอีกด้วย.

ขอบคุณบทความประวัติการจัดสร้างจากบทความของ อเสวนา http://oknation.nationtv.tv/blog/dhammayos/2011/02/15/entry-2