#เหรียญพระพุทธชินราช มวก. วัดเบญจมบพิตร ปี 2519 เนื้อเงินสภาพสวยพร้อมกล่องเดิม(ในหลวงรัชกาลที่9และราชินีเสด็จฯเททอง)
เหรียญพระพุทธชินราช มวก. วัดเบญจมบพิตร ปี2519 เป็นวัตถุมงคลสำคัญอีกอย่างหนึ่งของวัดเบญจมบพิตร
+พระพุทธชินราชรุ่นนี้เป็นพระพุทธชินราชที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินีฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเททอง
+พระราชทานอนุญาตประทับพระนามาภิไธยย่อ มวก.
+สร้างโดยวัดหลวงที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์
+พระพุทธชินราชขนาดบูชาที่ปั้นแบบโดย จ่าฯ ทวี บูรณเขต ศิลปินที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในการปั้นแบบพระพุทธชินราชได้งดงามแห่งยุค
+พระพุทธชินราชที่จัดสร้างในวาระนี้ ประกอบด้วย พระพุทธชินราชบูชา พระกริ่งพระพุทธชินราช และเหรียญพระพุทธชินราช หลัง มวก
+พิธีใหญ่ที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระญาณสังวรฯ หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อสุด หลวงพ่อเนื่อง ฯลฯ พระเกจิชื่อดังในยุคนั้นร่วมพิธี
องค์นี้สภาพสวยแชมป์ ผิวน้ำทองกระจายตามองค์พระ มาพร้อมกล่องเดิม ๆ
ประวัติ.....พระพุทธชินราชจำลอง วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นจากเรือ เพื่อนมัสการพระพุทธชินราชและทำการหล่อองค์พระพุทธชินราชจำลอง
“...ศุภมัสดุพระพุทธสาสนกาลล่วงแล้ว ๒๔๔๔ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชศรัทธามีพระราชประสงค์จะทรงสร้างพระพุทธปฏิมากร ให้มีพระพุทธลักษณเหมือนพระพุทธชินราช ณ เมืองพระพิษณุโลก อันมีมาแต่โบราณเพื่อประดิษฐานเปนพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ณ กรุงเทพมหานคร จึงเสด็จพระราชดำเนิรโดยกระบวนชลมารควิถี มาประทับแรม ณ เมืองพระพิษณุโลก ครั้น ณ วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๐ จันทรคติกาลเดือน ๑๐ ขึ้น ๕ ค่ำปีฉลู ตรีศกจุลศักราช ๑๒๖๓ เสด็จพระราชดำเนิรมานมัศการพระพุทธชินราช ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ทรงปิดทองถวายใหม่ทั่วทั้งพระองค์ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการมหรสพสมโภชแลจัดการตั้งพระราชพิธีที่จะหล่อพระพุทธชินราชขึ้นใหม่ ณ พระวิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ๓๐ รูปแลสวดภาณวารประจำเทียนไชย์ ๔ รูป นังปรกรูป ๑ ผลัดเปลี่ยนกันตลอดการพระราชพิธีถ้วน ๓ ทิวาราตรี ครั้น ณ วันอาทิตย์ที่ ๒๐ ตุลาคมรัตนโกสินทรศก ๑๒๐ จันทรคติกาล เดือน ๑๑ ขึ้น ๘ ค่ำปีฉลูตรีศกจุลศักราช ๑๒๖๓ เวลารุ่งเช้าเปนมงคลฤกษ์อันอุดม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเททองหล่อพระพุทธปฏิมากรเปนปฐม แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ช่างเททองต่อไป แล้วเสด็จพระราชดำเนิรจากเมืองพระพิษณุโลก ไปประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือต่อไปจนถึงเมืองอุตรดิฐ เมื่อเสด็จพระราชดำเนิรกลับมาถึงเมืองพิษณุโลก เสด็จพระราชดำเนิรมานมัสการพระพุทธชินราช แลทอดพระเนตรพระพุทธปฏิมากรที่หล่อใหม่แล้ว จึงทรงปลูกต้นโพธิ์ต้นนี้ไว้ ณ ที่นี้ อันเปนที่ตั้งพิมพ์หล่อพระพุทธปฏิมากรองค์ใหม่ ให้ต้องตามตำนานในกาลกอ่นกล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งโบราณมหาราชทรงสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์แลพระศรีศาสดาได้ทรงปลูกต้นโพธิ์ไว้ในที่ซึ่งหล่อพระพุทธปฏิมากรทั้งสามพระองค์นั้น อันเรียกกันว่าโพธิ์สามเส้ามีปรากฏอยู่ในบัดนี้ ต้นโพธิ์ต้นนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงปลูกเมื่อ ณ วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๐ จันทรคติกาลเดือน ๑๑ ขึ้น ๑๕ ค่ำปีฉลูตรีศกจุลศักราช ๑๒๖๓ ขอสาธุชนผู้นับถือพระพุทธสาสนา อันได้มานมัสการในที่นี้ จงรลึกถึงคุณพระรัตนไตรยอันเปนเหตุให้เกิดภาวนามัยบุญกิริยา แล้วจงรลึกถึงพระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แลอุทิศส่วนกุศลถวายด้วยอำนาจความศรัทธา แลกตัญญูกตเวทิตาขอความสิริสวีสดิ์พิพัฒนมงคลชนมสุขจงมีแก่ท่านทั้งหลาย ความประสงค์ที่เปนธรรมปราศจากโทษจงสำเร็จทุกประการเทอญ ฯ…..”
ข้อความนี้จารึกที่ศิลา ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภันฑ์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย นั่งสมาธิราบ จำลองแบบจากพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
พระพุทธชินราช มีขนาดหน้าตัก 5 ศอก คืบ 5 นิ้ว มีเศษน้ำหนักทองที่ใช้หล่อ 3,940 ชั่ง ตามตำนานเล่าว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสถาปนาวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พุทธศักราช 2442 โปรดให้ออกแบบพระอุโบสถตกแต่งไว้ด้วยหินอ่อนงดงามวิจิตร จำเป็นต้องแสวงหาพระประธานที่มีความทัดเทียมกัน และทรงระลึกได้ว่า เมื่อ พ.ศ. 2409 ทรงบรรพชาเป็นสามเณรได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไปนมัสการพระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่งดงามไม่มีที่เปรียบ แต่การจะอัญเชิญลงมา ย่อมไม่สมควร ด้วยเป็นสิริของชาวพิษณุโลก จึงมีดำริให้หล่อขึ้นใหม่
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระประสิทธิปฏิมา (เหมาะ ดวงจักร) จางวางช่างหล่อขวา ซึ่งเป็นช่างหล่อฝีมือดีที่สุด ขึ้นไปปั้นหุ่นถ่ายแบบจากพระพุทธชินราชองค์เดิม ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
ประชาชนชาวพิษณุโลก ที่มารอรับเสด็จฯ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระประสิทธิปฏิมา (ม.ร.ว.เหมาะ ดวงจักร เมื่อครั้งเป็นหลวงประสิทธิปฏิมา) จางวางช่างหล่อขวา ซึ่งเป็นช่างหล่อฝีมือดีที่สุด ขึ้นไปปั้นหุ่นถ่ายแบบจากพระพุทธชินราชองค์เดิมที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก (เริ่มทำหุ่นตลอดจนถ่ายแบบ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๔๓) แล้วเสด็จพระราชดำเนิน ทรงเททองหล่อเป็นส่วนๆ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๔๔
เมื่อหล่อพระแล้ว จึงอัญเชิญล่องเรือมาคุมองค์และแต่งที่กรมทหารเรือ โดย พระยาชลยุทธโยธิน (Andre du Plessis de Richelieu) ชาวเดนมาร์ก เข้ามารับราชการเป็นทหารเรือ มียศเป็นพลเรือโท ตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ(๑๖ มกราคม ๒๔๔๓ - ๒๙ มกราคม ๒๔๔๔) เป็นผู้ควบคุมการแต่งองค์พระ เครดิดภาพ คุณsayaka81
เสร็จแล้วเชิญลงเรือมณฑปแห่ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๔๔
การทั้งปวงตั้งแต่ปั้นหุ่น หล่อ ตกแต่ง และอัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ในพระอุโบสถสำเร็จเรียบร้อยดี ทรงปีติโสมนัสอย่างยิ่ง “จึงทรงเปลื้องสายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นพรัตน์ราชวราภรณ์ ซึ่งกำลังทรงอยู่นั้น ถวายพระพุทธชินราชเป็นพุทธบูชา”
แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อเป็นส่วนๆ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2444 อัญเชิญล่องเรือมาคุมองค์และแต่งที่กรมทหารเรือ โดยพระยาชลยุทธโยธิน (Andre du Plessis de Richelieu) ชาวเดนมาร์ก เข้ามารับราชการเป็นทหารเรือ มียศเป็นพลเรือโท ตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ เป็นผู้ควบคุมการแต่งองค์พระ เสร็จแล้วเชิญลงเรือมณฑปแห่ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปีเดียวกัน
เมื่ออัญเชิญพระพุทธชินราชขึ้นประดิษฐานแล้ว ต่อมาถึงปลายปี พ.ศ. 2452 จึงโปรดเกล้าฯให้จ้าง นายซึรุฮารา (Mr.Tsuruhara) ครูช่างในโรงเรียนวิชาช่างกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำการปิดทองจนแล้วเสร็จ และโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานสมโภช ในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2453
พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย มีเรือนแก้ว ประทับนั่งเหนือรัตนบัลลังก์หินอ่อน เรือนแก้วนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ทำถวาย เมื่อ พ.ศ. 2455 แต่ช่างทำไม่งาม พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้แก้ไขใหม่สวยงามตามที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
บทสวดบูชาพระพุทธชินราช
อิเมหิ นานา สักกาเรหิ อภิปูชิเตหิ ทีฆายุโก โหมิฯ อะโรโค สุขิโต สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะ ปะสิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา พุทธะชินะราชา อภิปาเลตุ มังฯ นะโม พุทธายะฯ
Cr.โจ้ อิศวเรศ พระเครื่อง
หน้าที่เข้าชม | 3,839,401 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,449,816 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 เม.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |