ชุดพระกริ่งไพรีพินาศ(รุ่นแรก สมเด็จพระญาณสังวร) เนื่องในพระบรมราชวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 เสด็จพระราชดำเนิน ในงานตัดลูกนิมิตสีมาอุโบสถ วัดเพชรวราราม จ.เพชรบูรณ์ ปี ๒๕๒๐ รุ่นเขาค้อ (ชุดกรรมการ ได้รับพระราชทาน พบเจอและหายากมากในปัจจุบัน)

#ชุดพระกริ่งไพรีพินาศ
(รุ่นแรก สมเด็จพระญาณสังวร)
เนื่องในพระบรมราชวโรกาส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9
เสด็จพระราชดำเนิน ในงานตัดลูกนิมิตสีมาอุโบสถ
วัดเพชรวราราม จ.เพชรบูรณ์ ปี ๒๕๒๐
รุ่นเขาค้อ
(ชุดกรรมการ ได้รับพระราชทาน
พบเจอและหายากมากในปัจจุบัน)

พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นเขาค้อ ปี2520 สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ

พระกริ่งรุ่นนี้จัดเป็นพระกริ่งรุ่นแรกที่จัดสร้างในรูปแบบพระไพรีพินาศ ของสมเด็จญาณสังวร

เป็นพระที่แจกทหารที่เขาค้อมีประสบการ์ณมากมายเลยได้รับชื่อว่ารุ่น " เขาค้อ " ปัจจุบันหายากมา

+ที่สุดแห่งพระกริ่งไพรีพินาศ ต้องรุ่นเขาค้อ พร้อมกล่องเดิมชุด ได้รับพระราชทานจากในหลวง ชุดกรรมการ พบเจอและหายากมากในปัจจุบัน)พระดี พิธีใหญ่ ในหลวงเสด็จฯ และมีประสบการณ์ 

ในชุดประกอบด้วย 3 รายการ

1.พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นเขาค้อ ปี2520 สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ เนื้อนวโลหะ มีโค้ต "พ" ทีฐานตรงหน้าตักองค์พระ(นิยม) ใต้ฐานฝาอุดกริ่ง มีอักษร "บ" และ "น" ซึ่งหมายถึง วัดบวรนิเวศวิหาร(1ใน2309 องค์)

2.พระสมเด็จสุคโต ปี 2517 บรรจุเส้นพระเกศา-พระสมเด็จสุคโต ปี 2517 ที่สุดแห่งพระสมเด็จของวัดบวรนิเวศ ต้องรุ่นนี้เท่านั้น บรรจุมวลสารสำคัญคือ พระนพปฏลมหาเศวตฉัตร ที่กางกั้นเหนือพระพุทธชินสีห์ พระประธานในพระอุโบสถ และเม็ดพระศกพระพุทธสุวรรณเขต (หลวงพ่อโต ) ในพระอุโบสถ ซึ่งในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมีดำริให้เปลี่ยนใหม่ และยังได้บรรจุพระเกศาของอดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ คือสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์, สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงค์  แค่ที่กล่าวมานี้ ก้อถือว่าเป็นที่สุดแห่งมวลสารแล้ว ยังมีมวลสารเก่าๆ ของวัดบวรอีกมากมาย ฯ พิธีพุทธาพิเศกก้อได้นิมนต์พระเกจิคณาจารย์ในยุคนั้น โดยเฉพาะสายวัดป่ามากมาย..

 3.เหรียญพระไพรีพินาศ รุ่นเขาค้อ ปี2520(สภาพผิวเดิมขึ้นสีรุ้งธรรมชาติ สวยมาก แบบนิยม)

ที่สุดแห่งพระกริ่งไพรีพินาศ ต้องรุ่นเขาค้อ งามสุด ๆ องค์เดียวจบครับ....พระดี พิธีดี ในหลวงเสด็จฯ และมีประสบการณ์ ต้องรุ่นนี้เท่านั้น.....

พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นเขาค้อ พ.ศ. ๒๕๒๐ เขาค้อ  นับเป็นการจัดสร้างพระกริ่งในรูปแบบพระไพรีพินาศเป็นครั้งแรกของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช 

.

พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นเขาค้อ พ.ศ. ๒๕๒๐ เขาค้อ  นี้มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาพระกริ่งไพรีพินาศทั้งหลายที่สร้างกันมาทั้งหมด ขนาดเล็กเกือบเท่าพระชัยวัฒน์ไพรีพินาศรุ่นแรกปี ๒๔๙๕ 

.

ฝีมือการปั้นก็มาจากนายช่างคนเดียวกันที่ปั้นพระกริ่งไพรีพินาศ-พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศรุ่นแรก ปี ๒๔๙๕  ก็คือนายช่างมาลี(มนตรี) พัฒนางกูร แห่งพัฒนช่าง เดิมท่านชื่อมาลี คุณพ่อท่านคือช่างหลุย พัฒนางกูร ต่อมาเห็นว่าชื่อเหมือนผู้หญิง เลยเปลี่ยนชื่อเป็นมนตรี แต่ในกระบวนช่างหล่อจะเรียกขานกันติดปากว่า นายช่างมาลี เลยใส่ทั้งชื่อเก่าและชื่อใหม่ไว้ด้วยกันคือนายช่างมาลี(มนตรี) พัฒนางกูร จริง ๆ ต้องเรียกว่า นายช่างมนตรี(มาลี) พัฒนางกูร จึงจะถูกต้อง

.

นายช่างมนตรี(มาลี) พัฒนางกูร มีความเป็นอัจฉริยะมาก เพราะท่านเป็นศิษย์เอกของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ท่านผู้ประสาสธน์การมหาวิทยาลัยศิลปากร ผลงานของท่านมีมากมายครับอย่างพระชัยปวเรศ ๓๐ ท่านใช้เวลาปั้นต้นแบบคืนเดียวเสร็จนะครับเป็นนายช่างสมัยนี้อาทิตย์นึงก็ยังไม่เสร็จ  ถ้าไม่ไปนั่งเฝ้ารับรองได้เดือนนึงก็ไม่เสร็จเพราะจะมีพวกไปนั่งเฝ้าและยัดใต้โต๊ะลัดคิว 

.

ผลงานท่านมีมากมาย พระกริ่งวัดตรี ปี ๒๔๙๑ พระกริ่ง ๗ รอบปี ๒๔๙๙ ฯลฯ อีกมากมาย

.

จำนวนสร้าง :

.

๑.พระกริ่ง เนื้อทองคำ น้ำหนักประมาณ ๑๓.๗ กรัม (สร้างตามจอง)

๒.พระกริ่งเนื้อ เงิน จำนวน ๒๑๙ องค์)

๓.พระกริ่งเนื้อ นวโลหะ จำนวน ๒,๓๐๙ องค์  

๔.พระยอดธง เนื้อนวโลหะจำนว ๑๐๙ องค์ 

๕.พระชัยวัฒน์เนื้อนวโลหะ๓๓๙ องค์ 

๖.เหรียญไพรีพินาศ เนื้อทองคำ (สร้างสั่งตามจอง)

๗. เหรียญไพรีพินาศ เนื้อเงิน จำนวน ๓๓๙ เหรียญ)

๘.เหรียญไพรีพินาศ เนื้ ทองแดง จำนวน ๙,๙๙๙ เหรียญ 

.

แจกในวาระที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เสด็จที่วัดเพชรวราราม จังหวัดเพชรบูรณ์  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานแก่ผู้บริจาคทุนทรัพย์สร้างพระอุโบสถวัดเพชรวราราม จ.เพชรบูรณ์ และบรรดาทหารหาญที่ไปถวายอารักขา 

.

ชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมายอาทิ :

.

-เหรียญท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ วัดเทพศิรินทร์ 49เหรียญ

-ชนวนพระกริ่งวัดมกุฎกษัตริยาราม

-ฐานพระพุทธรูป สมัยเชียงแสนและสุโขทัย

-ตะกรุดเงินสมัยอยุธยา ของหลวงพ่ออี๋

-ตะกรุดของหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา

-ตะกรุดของหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม

-แผ่นทองคำของหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เป็นต้น

พิธีเทหล่อ :

.

วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๐  เวลา ๑๔.๐๙ น. ณ หน้าอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร และได้นำไปถวายให้ หลวงปู่แหวน แผ่เมตตาและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ที่วัดดอยแม่ปั๋ง ในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๐ อีกครั้งหนึ่ง

.

พิธีพุทธาภิเษก :

.

วันที่ ๓๑ พฤษภาคมและ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๐  ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชินญาณสังวร เป็นประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรกพร้อมด้วยพระเถรานุเถระ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา ๓วัน ๓  คืน

.

โดยมีพระเกจิอาจารย์และพระวิปัสสนาจารย์ทั้งกรุงเทพฯ และสายพระอาจารย์มั่น มาร่วมพิธีพุทธาภิเษกมากมายหลายสิบรูป อาทิเช่น :

.

หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง

หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล

หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด

พระอาจารย์สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก

หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ฯลฯ...

ประวัติ พระไพรีพินาศ รุ่นเขาค้อ พ.ศ. ๒๕๒๐ (น่าสนใจมาก) 

         พระกริ่งไพรีพินาศ รุ่นเขาค้อ พ.ศ. ๒๕๒๐ นับเป็นการจัดสร้างพระกริ่งในรูปแบบพระไพรีพินาศเป็นครั้งแรกของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

  ประกอบพิธีเททองและพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน โดยมีพระเกจิอาจารย์และพระวิปัสสนาจารย์ทั้งกรุงเทพฯ และสายพระอาจารย์มั่นมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกมากมายหลายสิบรูป เช่น หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่เทศก์ หลวงปู่ขาว หลวงตามหาบัว พระอาจารย์สาม หลวงปู่แหวน ฯลฯ

             รุ่นนี้มีประสบการณ์ที่ทหารไทยได้รับพระราชทานพระกริ่งรุ่นนี้ (ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่ผู้บริจาคทุนทรัพย์สร้างพระอุโบสถวัดเพชรวราราม จ.เพชรบูรณ์ และบรรดาทหารหาญที่ไปถวายอารักขา เมื่อทหารหลายท่านได้รับพระราชทานไปแล้วเมื่อสู้รบกับฝ่ายตรงข้ามปรากฏว่ากระสุนไม่ระคายผิวแต่ประการใด มีทหารคนหนึ่งโดนกระสุนปืนของฝ่ายตรงข้ามทะลุเข้าอกเสื้อปรากฏว่ากระสุนไปกระแทกเข้ากับกรอบพลาสติกที่ใส่พระไพรีพินาศรุ่นเขาค้อที่เขาแขวนคออยู่ปรากฏว่าทั้งกรอบพระกระแทกเข้าหน้าอกของเขาเป็นรอยช้ำสีแดงแต่ปรากฏว่ากรอบพระนั้นหาได้แตกไม่ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว กรอบพระจะต้องแตก กระสุนจะต้องทะลุทะลวงเข้าเนื้อเข้าไปภายในทำลายอวัยวะสำคัญ แต่เขามีเพียงรอยช้ำเพราะกระสุนและกรอบพระกระแทกหน้าอกเขาเท่านั้นนับเป็นเหตุอัศจรรย์เหนือการอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์

  พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม มีขนาดหน้าพระเพลา๓๓ เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปแบบธยานิพุทธเจ้า ปางประทานพร สมัยศรีวิชัย แต่นักสังเกตบางคนสงสัยว่า “พระพุทธรูป สมัยศรีวิชัย มีเพียงเกตุมาลา เป็นจอมคล้ายสมัยทราวดีเป็นพื้น” พระพุทธรูปองค์นี้ มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อยังทรงผนวชอยู่ ราว พ.ศ.๒๓๙๑ ได้ถวายพระนามว่า “พระไพรีพินาศ”

     ซุ้มเก๋ง ด้านเหนือแห่งพระเจดีย์นั้น เป็นที่ประดิษฐานพระไพรีพินาศ ในการบูรณปฏิสังขรณ์ปีพุทธศักราช ๒๕๐๗-๘ นี้ ทำประตูเหล็ก ๒ ชั้น ช่องหน้าต่างใส่เหล็กทั้งสองข้าง ฝาผนังปิดโมเสก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ปิดทองพระไพรีพินาศ ในวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๘ ด้วย

  ในหนังสือตำนานวัดมีกล่าวว่า “พระไพรีพินาศ ใคร่ครวญตามพระนามน่าจะได้เชิญประดิษฐานไว้ในเก๋งน้อยที่สร้างใหม่ ณ ทักษิณชั้นบนแห่งพระเจดีย์ในครั้งนั้น เว้นไว้แต่จักได้ประดิษฐานไว้แล้วในครั้งยังทรงผนวชเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๑ ที่เป็นคราวสิ้นเสี้ยนศัตรู ครั้งแรก”

พระไพรีพินาศ ในสาสน์สมเด็จ
เล่ม ๒ หน้า ๘๕-๙๐-๑๑๖

    สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทูลสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่า สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ตั้งปัญหาถามกระหม่อมว่า พระไพรีพินาศนั้น เป็นพระอะไร มาแต่ไหน ทำไมจึงมาอยู่วัดบวรนิเวศ เหตุใดจึงชื่อว่า ไพรีพินาศ เกล้ากระหม่อมหงายท้อง ไม่สามารถตอบได้ อยากรู้เหมือนกัน เคยทูลถามฝ่าพระบาทก็ไม่ทรงทราบเหมือนกัน หันไปหันมาเห็นกรมหมื่นพงศา จึงลองเข้าจดทูลถามดู ตรัสบอกว่า ใครก็ทรงจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว เป็นผู้นำมาถวายทูลกระหม่อมเมื่อยังทรงผนวชอยู่ เป็นเวลาติดต่อกับที่หม่อมไกรสรถูกสำเร็จโทษ จึงโปรดตั้งพระนามว่า "พระไพรีพินาศ”

     พระไพรีพินาศเจีดย์ เป็นพระเจดีย์ศิลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น บรรจุพระพุทธวจนะ ประดิษฐานอยู่ในคูหาภายในพระเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ระหว่างการบูรณะพระเจดีย์ใหญ่ได้เปิดองค์พระไพรีพินาศเจดีย์ดู พบกระดาษสีขาว มีตราแดง ๒ ดวง มีอักษรเขียนว่า "พระสถูปเจดียสิลาบัลลังองค์ จงมีนามว่า พระไพรีพินาศเจดียเทิญ" อีกหน้าหนึ่งเขียนว่า "เพระตั้งแต่ทำแล้วมา คนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ"

คาถาบูชาพระไพรีพินาศ
อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สุจิรํ ปรินิพฺพุโต
คุเณหิ ธรมาโนทานิ ปารมีหิ จ ทิสฺสติ
ยาวชีวํ อหํ พุทธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คโต
ปูเชมิ รตนตฺตยํ ธมฺมํ จรามิ โสตฺถินา.