รหัสสินค้า | 001681 |
หมวดหมู่ | รูปเหมือน-รูปหล่อ เกจิคณาจารย์ |
ราคา | 0.00 บาท |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
#พระกริ่งอวโลกิเตศวร ( เจ้าแม่กวนอิม ) เนื้อเงินพ่นทราย
รุ่นอุดมโภคทรัพย์ พ.ศ.2539
พระกริ่งอวโลกิเตศวร ( เจ้าแม่กวนอิม ) วัดโพธิ์แมนคุณาราม เนื้อเงิน พ่นทราย(ผิวเดิม ขึ้นสีรุ้งธรรมชาติ แบบนิยม เสน่ห์ของพระเนื้อเงิน) รุ่นอุดมโภคทรัพย์ พ.ศ.2539(อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม พุทธศิลป์สวยงดงาม)
พระกริ่งอวโลกิเตศวร ( เจ้าแม่กวนอิม ) เนื้อเงิน พ่นทราย รุ่นอุดมโภคทรัพย์ พ.ศ.2539
-ผลิตโดยบริษัท แพนด้า จิวเวอร์ลี่ จำกัด (มหาชน)
-ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดโพธิ์แมนคุณาราม ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2539
-ขนาดองค์พระ สูงประมาณ 4.0 ซม. ฐานกว้่างประมาณ 2 ซม.
-สร้างด้วยเนื้อเงินบริสุทธิ์ 99.9% จำนวนจัดสร้าง 5000 องค์
-สภาพสวยงดงามมาก มีโค๊ต และหมายเลขกำกับ พร้อมกล่องบรรจุเดิม
วัดโพธิ์แมนคุณาราม (โพวมึ้งป่ออึงยี่) (จีน: 普門報恩寺) เป็นวัดในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน สังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย สืบทอดหลักธรรมคำสอนมาจากนิกายเซน สาขาหลินฉี (วิปัสสนากรรมฐาน) และเป็นเป็นศูนย์กลางหลักธรรมคำสอนของนิกายวินัย และนิกายมนตรายาน ของวัชรยาน ทิเบต และเป็นศูนย์กลางการปกครองคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย และศูนย์กลางการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนานิกายมหายาน และวัชรยานอีกทั้งเป็นแหล่งข้อมูลพุทธศาสนาฝ่ายมหายานของประเทศไทย
วัดโพธิ์แมนสร้างตามหลักฮวงจุ้ย ลักษณะรถม้ากำลังลากราชรถ ซึ่งประตูทางเข้าวัดมีซุ้มประตู 5 ประตูเปรียบเหมือนม้าห้าตัว กำลังลากราชรถ คือพระอุโบสถ อันมีพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้าเป็นประธาน ตัวพระอุโบสถเป็นลักษณะผสมผสานระหว่าง พุทธศิลป ไทย จีน และธิเบต พระอุโบสถเป็นรูปทรงจีน พื้นหินขัดลายจีน สถาปัตยกรรมของวัดโพธิ์แมนเป็นฝีมือออกแบบโดยเจ้าคุณโพธิ์แจ้งมหาเถระ อดีตเจ้าคณะใหญ่สงฆ์นิกายจีน สำหรับถาวรวัตถุที่สำคัญๆของวัดมีอุโบสถ 3 ชั้น ยอดเป็นฉัตรเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ภายในประดิษฐาน “พระพุทธวัชรโพธิคุณ” ปิดทองเหลืองอร่าม พร้อมด้วยหมู่พระพุทธรูป 1,000 องค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนเพดานทั้ง 3 ชั้นของอุโบสถ ฝาผนัง 2 ข้าง เป็นจิตรกรรมกระเบื้องโมเสครูปพระอรหันต์ 500 องค์
วัดโพธิ์แมนได้ รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธียกยอดฉัตรเจดีย์ อุโบสถ และ พระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร“ ประดิษฐานหน้าบันอุโบสถ ปีพ.ศ. 2514 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามพระประธานอุโบสถว่า “พระพุทธวัชรโพธิคุณ“ และในปีเดียวกันนี้ สมเด็จพระสังฆราช (อุฏฐายีมหาเถระ) ทรงพระกรุณาพระราชทานเป็นวัดพัฒนาดีเด่นพร้อมประกาศนียบัตรจากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการแด่ท่านเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย (โพธิ์แจ้งมหาเถระ) ที่ได้สร้างและพัฒนาวัดจนเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
ประวัติพระอวโลกิเตศวร
พระอวโลกิเตศวร เป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการบูชาแพร่หลายมากที่สุด และเป็นที่คุ้นเคยแม้กระทั่งต่อชาวพุทธฝ่ายเถรวาทแบบบ้านเราเองมาช้านาน
สำเนียงจีนเรียกพระองค์ว่า กวนอิม,ญี่ปุ่นเรียก กันนอน,ทิเบต เรียก เชนเรซิก
พระองค์ เป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา(ในเชิงธรรมาธิษฐานคือพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ทรงตั้งปณิธานที่จะไม่เสด็จเข้านิพพานจนกว่าจะช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้น จากความทุกข์ พระนามของพระองค์ปรากฏในพระสูตรมหายานสำคัญๆ เช่นปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร,สัทธรรมปุณฑริกสูตร เป็นต้น
แม้ว่าใน ภาวะของโพธิสัตว์ มักถือกันว่า ไม่เป็นทั้งเพศบุรุษหรือสตรี แต่รูปศิลปะแรกๆของพระองค์ในอินเดีย มักแสดงความเป็นเพศชาย ในขณะที่เมื่อการบูชาพระองค์แพร่หลายเข้าไปในประเทศจีน แรกนั้นนายช่างก็แสดงรูปของพระองค์เป็นบุรุษอยู่ ต่อมาในสมัยหลังเมื่อตำนานพื้นเมืองของจีนเอง เรื่องพระธิดาเมี่ยวซันแห่งอาณาจักรซินหลิง ซึ่งถือว่าเป็นชาติก่อนที่พระองค์จะได้เป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ รูปของพระองค์ได้แสดงลักษณะของสตรีเพศอย่างชัดเจน กลายเป็น เจ้าแม่กวนอิม ที่รู้จักกันดี
อวโลกิเตศวร ได้มีผู้ให้ความหมายไว้หลายนัยด้วยกัน แต่โดยรูปศัพท์แล้ว คำว่าอวโลกิเตศวรมาจากคำสันสกฤตสองคำคือ อวโลกิต กับ อิศวร แปลได้ว่าผู้เป็นใหญ่ที่เฝ้ามองจากเบื้องบน หรือพระผู้ทัศนาดูโลก ซึ่งหมายถึงเฝ้าดูแลสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์นั่นเอง, ซิมเมอร์ นักวิชาการชาวเยอรมันอธิบายว่า พระโพธิสัตว์องค์นี้ทรงเป็นสมันตมุข คือ ปรากฏพระพักตร์อยู่ทุกทิศอาจแลเห็นทั้งหมด ทรงเป็นผู้ที่สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ คืออาจจะเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อใดก็ได้ แต่ทรงยับยั้งไว้เนื่องจากความกรุณาสงสารต่อสรรพสัตว์ นอกจากนี้นักปราชญ์พุทธศาสนาบางท่านยังได้เสนอความเห็นว่า คำว่า อิศวรนั้น เป็นเสมือนตำแหน่งที่ติดมากับพระนามอวโลกิตะ จึงถือได้ว่าทรงเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์เดียวที่มีตำแหน่งระบุไว้ท้ายพระนาม ในขณะที่พระโพธิสัตว์พระองค์อื่นหามีไม่ อันแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญยิ่งของพระโพธิสัตว์พระองค์นี้
พุทธศาสนิกชนชาวจีนจะรู้จักพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ในพระนามว่า กวนซีอิม หรือ กวนอิม ซึ่งก็มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่าอวโลกิเตศวรในภาษาสันสกฤต คือผู้เพ่งสดับเสียงแห่งโลก แต่โดยทั่วไปแล้วมักให้อรรถาธิบายเป็นใจความว่าหมายถึง พระผู้สดับฟังเสียงคร่ำครวญของสัตว์โลก (ที่กำลังตกอยู่ในห้วงทุกข์) คำว่ากวนซีอิมนี้พระกุมารชีวะชาวเอเชียกลางผู้ไปเผยแผ่พระศาสนาในจีนเป็นผู้แปลขึ้น ต่อมาตัดออกเหลือเพียงกวนอิมเท่านั้น เนื่องจากคำว่าซีไปพ้องกับพระนามของ จักรพรรดิถังไท่จง หรือ หลีซีหมิง
หน้าที่เข้าชม | 3,839,401 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,449,816 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 เม.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |