พระบูชา 25พุทธศตวรรษ พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ ปี2530 ตราสัญลักษณ์ ในมหาวาระพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ 60 พรรษา เมื่อ 5 ธันวาคม ปี 2530 หมายเลข (๑๕)๔๐๕ (เลขสวยผลรวมได้ 9 เจริญก้าวหน้าในทุกๆด้าน) ขนาดความสูง 15 นิ้ว รวมฐานสูง 18 นิ้ว(นิยมหายาก)

#พระบูชา 25พุทธศตวรรษ
พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์  ปี 2530 ตราสัญลักษณ์ ในมหาวาระพระชนมพรรษา
ครบ 5 รอบ 60 พรรษา เมื่อ 5 ธันวาคม ปี 2530
หมายเลข (๑๕)๔๐๕
(เลขสวยผลรวมได้ 9 เจริญก้าวหน้าในทุกๆด้าน)
ขนาดความสูง 15 นิ้ว รวมฐานสูง 18 นิ้ว
(นิยมหายาก)

พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์

พระบูชา ปางลีลา

พระบูชา 25 ศตวรรษ คือ พระพุทธปฏิมาหรือองค์จำลอง “พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์” เป็นพระพุทธรูปยืนปางลีลาขนาดใหญ่ ผู้ออกแบบพระองค์นี้ คือ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ชาวอิตาลี ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร  ตัวอย่างประติมากรรมอันโดดเด่นที่เป็นผลงานของท่านได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่วงเวียนใหญ่, พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เป็นต้น

สำหรับ "พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์" นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกที่ปั้นให้มีพุทธลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนพระองค์ใด เป็นการประยุกต์มาจากพระลีลาในสมัยสุโขทัย คือ พระยกพระบาทขวากำลังก้าวเดิน พระหัตถ์ขวาอยู่ในท่าไกว พระหัตถ์ซ้ายยกเสมอวาระ “กึ่งพุทธกาล” หรือ 2500 ปีของพุทธศาสนานั่นเอง ทำการสร้าง 3 ขนาด คือ 27 นิ้ว 16 นิ้ว และ 11 นิ้ว  ซึ่งขนาด 27 นิ้วและ พระอุระป้องไปเบื้องหน้าเป็นกิริยาเดิน จีวรขององค์พระแลดูเสมือนจริงและมีความพริ้วไหว พระพักตร์ดูเปี่ยมด้วยพระเมตตา

-การจัดสร้างครั้งแรกปี 2500 เพื่อเฉลิมฉลองในวาระ “กึ่งพุทธกาล” หรือ 2500 ปีของพุทธศาสนานั่นเอง ทำการสร้าง 3 ขนาด คือ 27 นิ้ว 16 นิ้ว และ 11 นิ้ว  ซึ่งขนาด 27 นิ้วและ 11 นิ้วปั้นและออกแบบโดย ศ.ศิลป์ พีระศรี ส่วนขนาด 16 นิ้วปั้นโดยช่างพัฒน์ แห่งพัฒนะช่าง

 -การจัดสร้างในปี 2525 เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมโภชองค์พระประธานพุทธมณฑล “พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์” และเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี พระบูชารุ่นนี้มีการสร้างทั้งหมด 3 ขนาด

     สูง 9 นิ้ว สร้างจำนวน 2,525 องค์ ราคาจองขณะนั้น 2,500 บาท 

    สูง 18 นิ้ว สร้างจำนวน 2,525 องค์ ราคาจองขณะนั้น 4,000 บาท

    สูง 24 นิ้ว สร้างจำนวน 1,250 องค์ ราคาจองขณะนั้น 5,000 บาท

พระทุกองค์ด้านหน้าจะมี เหรียญโลหะปั๊มรูปทรงวงรี ตรงกลางมีตราสัญลักษณ์ “พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ” ด้านหลังฐานจะตอกหมายเลข (เลขไทย) จำนวน 5 ตัว โดยหมายเลขตัวแรกเป็นสัญลักษณ์แทนความสูงขององค์พระ (วัดจากพระบาทจรดปลีเกศ) ส่วนตัวเลขอีก 4 ตัว นั้นแสดงหมายเลขประจำองค์พระ โดยพระบูชาทุกขนาด มีทั้งแบบรมดำ และ ไม่รมดำ

การจัดสร้างเพิ่มปี 2527 เนื่องจากพระบูชา 25 พุทธศตวรรษ ปี 2525 นั้นมีประชาชนเปี่ยมศรัทธามาเช่าบูชาเป็นจำนวนมาก จึงหมดลงอย่างรวดเร็ว พุทธมณฑลจึงมีการจัดสร้างอีกครั้งในปี 2527 ซึ่งจัดสร้างขนาดสูง 18 นิ้ว เพียงอย่างเดียว จำนวน 2,525 องค์ ผิวจะเป็นผิวรมน้ำตาลมันปู(ปี 2527 จุดสังเกตพระที่สร้างเสริมนั้นจะมีเลข ๒ อยู่ด้านหน้าเลขบอกความสูงขององค์พระ) เนื่องในงานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี มีหมายเลขบอกขนาดความสูง และหมายเลขประจำองค์พระ ตอกเรียงต่อกันที่บริเวณด้านหลังฐาน)

-การจัดสร้างในปี 2530 ต่อเนื่องถึงปี 2531 เนื่องในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 5 รอบ (60 พรรษา) ด้านหน้าฐานองค์พระประดับตราสัญลักษณ์แยกได้เป็น 2 แบบ ดังนี้

1. ตราสัญลักษณ์ ในมหาวาระพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ 60 พรรษา เมื่อ 5 ธันวาคม ปี 2530

2. ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ปี 2531

ตราสัญลักษณ์ทั้งสองแบบนั้นเป็นเหรียญโลหะรมดำรูปทรงวงรีเหมือนกัน ในส่วนองค์พระนั้นมีหมายเลขบอกความสูง และหมายเลขประจำองค์พระ โดยตอกเรียงต่อกัน ทางด้านหลังของฐานทรงกลม มีหมายเลขบอกความสูง และหมายเลขประจำองค์พระตอกเรียงต่อกันมีการจัดสร้าง2ขนาด 12และ15นิ้ว(ไม่รวมความสูงฐาน) คือขนาดเล็ก 12 นิ้ว วัดรวมฐานสูง 15 นิ้ว และขนาดใหญ่ 15 นิ้ว โดยวัดรวมฐานได้ 18 นิ้ว ซึ่งเป็นไซส์ที่หายากมากกว่ารุ่นอื่นใด (ไซส์นี้ในรุ่นนี้สร้างน้อยมากหายากกว่าขนาดเล็กในรุ่น)

-การจัดสร้างในปี 2534 เนื่องในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถครบ 5 รอบ (60 พรรษา) โดยรุ่นนี้จะไม่มีหมายเลขตอกบอกขนาดความสูง และไม่มีหมายเลขประจำองค์พระ เหมือนรุ่นอื่นๆข้างต้น แต่ยังคงมีเหรียญ ภปร.ทรงหยดน้ำระบุ พ.ศ.2534 ติดอยู่ที่ด้านหน้าของฐานชั้นล่างเหมือนรุ่นอื่นๆ (มีการจัดสราง 3 ขนาด 9 , 18 และ 24 นิ้ว)ไม่รวมความสูงฐาน

-การจัดสร้างในปี 2539 เนื่องในวาระเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งรัฐบาลจัดให้เป็นปีกาญจนาภิเษก มีการตอกเลข ๔ อยู่ด้านหน้าเลขบอกความสูง และเลขประจำองค์พระ โดยด้านหน้าฐานชั้นล่างสุดยังคงติดเหรียญ แต่เปลี่ยนจากรูปหยดน้ำไปเป็นรูปทรงกลมที่มีตราธรรมจักรสัญลักษณ์ของสำนักพุทธมณฑลระบุปี 2539 แทน จัดสร้างด้วยเนื้อโลหะผสมรมดำด้วยขนาดความสูงแตกต่างกัน 3 ขนาด คือขนาดความสูง 9 , 18 และ 24 นิ้ว

***จนถึงปีปัจจุบัน  ก็ยังไม่มีการจัดสร้างเพิ่มเติมแต่อย่างใด***

ฉะนั้นพระบูชา 25 พุทธศตวรรษที่จัดสร้างมาแล้วในอดีตจนถึงปัจจุบันจึงได้รับความนิยม ตลอดจนมีราคาค่านิยมสูงขึ้นมาก อีกทั้งของก็หายากขึ้นมากปัจจุบันพระบูชาทั้งหมดทุกรุ่นได้รับความนิยมในมวลหมู่นักนิยม นักสะสม และพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง ไล่เรียงค่านิยม ตั้งแต่รุ่นแรกเรื่อยมาจนถึงรุ่นสุดท้ายที่มีการจัดสร้าง ถูกจัดเข้าไปอยู่ 1 ใน 10 พระบูชายุคปัจจุบัน (top ten) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นหนึ่งในเบญจภาคี 1 ใน 5(top five) พระลีลาร่วมสมัยแล้วอย่างเต็มภาคภูมิ