เป็นพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ สายวัดสุทัศน์โดยแท้ ทั้ง อ.นิรันดร์ แดงวิจิตร ศิษย์พระสังฆราช(แพ) และท่านอดีตพระแอ้ดศิษย์ อ.เทพย์ สาริกบุตร ผู้ได้สืบทอดวิชายันต์ 108 นะ 14 อีกทั้งหาฤกษ์ยามทั้ง 3 ขั้นตอน เป็นการสร้างพระกริ่งที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบตามตำราครั้งหนึ่ง
การจัดสร้างมีดังนี้
1. พระกริ่งใหญ่ เนื้อทองคำและเนื้อนวโลหะ
2. พระชัยวัฒน์ เนื้อทองคำและเนื้อนวโลหะ
3.พระปางสมาธิสุโขทัย เนื้อทองคำและเนื้อนวโลหะ
...................................................................................................................
พระกริ่งและพระชัยวัฒน์ สมเด็จย่า 90 พรรษา ปี2533
เป็นการสร้างพระกริ่งที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบตามตำราครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่า ท่านทรงพระชนมายุครบ 90 พรรษา ทางสำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึกในวาระงานฉลองพระชนมายุของพระองค์ โดยได้กราบเรียนเชิญ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ ภริยาท่านนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นประธานสร้างและมีมติให้จัดสร้างพระกริ่ง สมเด็จย่า 90 พรรษาขึ้น โดยได้เชิญ ท่านนิรันดร์ แดงวิจิตร ศิษย์ผู้ใกล้ชิดในเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร)
ท่านเคยเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดในการสร้างพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ของเจ้าประคุณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) หลายครั้ง มาร่วมงานการสร้างพระกริ่งในครั้งนี้โดยกำหนดขั้นตอนไว้ 3 ขั้นตอน
1.ขั้นตอนการลงทองเพื่อใช้ในการหลอมหล่อองค์พระในครั้งนี้ ได้เรียนเชิญพระอาจารย์อรรถพล กิตฺติโก ได้นำโลหะทั้ง 9 ชนิดหล่อหลอมจนเข้ากันดี นำมาลงเลขยันต์ตามตำราที่บังคับ 108 ดวง จากนั้นก็จะลงนะอักขระวิเศษอีก 14 นะ เมื่อจบขั้นตอนแล้วจึงลงพระยันต์อักขระ จากนั้นตัดแผ่นโลหะ 122 แผ่น และจัดเครื่องบวงสรวงบูชาครูแบบที่สมบูรณ์ที่สุด ในระหว่างลงทุกวันพฤหัสบดีก็จะทำพิธีบวงสรวงบูชาครูตลอดทุกวันพฤหัสบดีจนแล้วเสร็จพิธีกรรม จากนั้นก็ทำพิธีชัยมงคลด้วยการนิมนต์พระพิธีกรรม 4 รูปเจริญคาถาภาณวาร พระคณาจารย์จำนวน 32 รูปผลัดเปลี่ยนกันบริกรรมปลุกเสกกว่าจะเสร็จพิธีก็รุ่งแจ้งเป็นการ
สำเร็จขั้นตอนที่หนึ่ง
2.ขั้นตอนต่อมาก็คือการเททองหล่อองค์ พระกริ่ง ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศนฯ ในพิธีกรรมนี้ได้กราบทูลอาราธนาสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ทรงเป็นผู้จุดเทียนชัยและทรงเป็นองค์ประธานการเจริญพระพุทธมนต์ร่วมกับสมเด็จพระราชาคณะและพระราชคณะผู้ใหญ่ 10 รูป ภายหลังจากการประกอบพิธีกรรมจุดเทียนชัยและเจริญพระพุทธมนต์แล้วทรงเมตตาประทับนั่งบริกรรมเป็นองค์ปฐม เมื่อได้ฤกษ์เททองทรงเททองพระกริ่ง สิ่งสำคัญในพิธีครั้งนี้ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศได้ส่งแผ่นทองแดงมาร่วมเป็นจำนวนหลายพันแผ่น แต่ละแผ่นลงพระยันต์ โดยพระคณาจารย์รวมเป็นจำนวนนับพันรูปและทองคำที่นำมาเททองเป็นองค์พระ หนักรวมถึง 287 กิโลกรัม การประกอบพิธีกรรมนั้นกระทำกันตั้งแต่ 17.00 น. ถึง รุ่งเช้าวันใหม่ โดยพระพิธีกรรมที่มาเจริญพระพุทธมนต์นั้นรวม 3 ชุด ชุดละ 4 รูป ผลัดเปลี่ยนเวียนกันสวดตลอดคืน ส่วนพระคณาจารย์เจ้า จากวัดต่างๆ รวม 56 รูป เมื่อพิธีกรรมสงฆ์สมบูรณ์แล้ว พราหมณ์ ประกอบพิธีกรรมเป็นแว่นเวียนเทียนพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาตลอดจนเสร็จพิธี จึงบอกกล่าวได้ว่าการประกอบพิธีกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็น “เอก” สมบูรณ์สุดพิธีหนึ่งในยุค
3.เมื่อสำเร็จสมบูรณ์ครบขั้นตอนแล้ว คณะกรรมการได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงประกอบพิธีกรรมพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดารามอีกครั้งหนึ่ง โดยกำหนดฤกษ์ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2533 ซึ่งทรงมีพระเมตตาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีนี้ พระกริ่งที่หล่อในครั้งนี้เป็นการหล่อแบบพิธีกรรมโบราณ หล่อระบบดินไทยเปิดใต้ฐานเพื่อบรรจุผงพุทธคุณ 108 แล้วจึงปิดฐานด้วยโลหะชนิดเดียวกัน
เนื้อทองคำจัดสร้าง 1999 ชุด
นวโลหะเต็มสูตร จัดสร้าง 2999 ชุด
รุ่นนี้หลังหักค่าใช้จ่าย ทูลเกล้าถวายได้ถึง 70 ล้านบาท
ใช้ทองคำทั้งสิ้น 287 กิโลกรัม ทำให้พระกริ่งรุ่นนี้มีส่วนผสมทองคำที่จัดมาก ถือได้ว่าเป็นชุดพระกริ่งที่ใช้ทองคำมากมายจริงๆ
มวลสารที่ใช้ในการสร้าง
– นวโลหะเดิมที่ได้จากสมเด็จสังฆราช(แพ), พระครูขันติยาภิราม (หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส) และของพระอาจารย์อรรถพล กิตติโก วัดปริวาส รวมเป็นน้ำหนัก 90 กิโลกรัม
– แผ่นพระยันต์จากพระคณาจารย์ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 799 รูป เมตตาลงอักขระแผ่นทองแดงให้รวมทั้งสิ้นถึง 5,999 แผ่น น้ำหนักแผ่นทองแดง 52 กิโลกรัม
– แผ่นทองคำ ได้มีพิธีลงทองโดยพระอาจารย์อรรถพล กิตติโก ในพิธีลงทองและพุทธาภิเษกแผ่นพระยันต์ที่วัดปริวาส เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2533 โดยลงแผ่นพระยันต์ 108 นะปะถะมัง 14 ดวงพระประสูติและตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
– เนื้อโลหะทองคำส่วนหนึ่งจากทองคำบางสะพาน ซึ่งถือเป็นโลหะธาตุทองคำศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการสร้างสิ่งมงคลแต่โบราณ 1,998.7 กรัม กรมทรัพยากรธรณีประสานจัดหา
– ทองแดงเถื่อนและทองแดงจันทึก จังหวัดนครราชสีมา 6.5 กิโลกรัม กรมทรัพยากรธรณีประสานจัดหา
– เนื้อโลหะชนวนในการสร้างพระพุทธรูป ภปร. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เททองเมื่อ ปี2508 ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
– ชนวนในการสร้างพระชัยวัฒน์ พระกริ่งปวเรศร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เททองเมื่อ ปี2528 ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
– ชนวนเททองหล่อหลวงพ่อเงิน บางคลานพิจิตร ซึ่งนายประเสริฐ นรัตถรักษา คหบดีจังหวัดพิจิตรมอบให้
– ชนวนเททองหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ซึ่งนายทวีป ทวีพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองมอบให้
– พิธีลงทองและพุทธาภิเษกแผ่นพระยันต์ ประกอบพิธีวันที่ 19 มิถุนายน 2533 ณ อุโบสถวัดปริวาส โดยพระญาณโพธิ(เข็ม) ลงทองแผ่นยันต์108 นะปะถะมัง14นะ ดวงประสูติและตรัสรู้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พิธีเททองและพุทธาภิเษก ประกอบพิธีวันที่ 18 สิงหาคม 2533 ณ วัดสุทัศน์เทพวราราม โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเป็นองค์ประธานและทรงนั่งปรกพร้อมพระคณาจารย์อื่นๆ ผู้ทรงคุณวุฒินั่งปรกบริกรรมภาวนารวม 28 รูป จำนวนเท่ากับพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ตั้งแต่เวลา 6.00 น.ของวันประกอบพิธีจนถึง 6.09 น.ของวันรุ่งขึ้น และก่อนหน้าพิธีได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่ายแผ่นพระยันต์ตลอดจนทรงเจิมแผ่นทองคำ
พิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์ประธาน เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2533
หน้าที่เข้าชม | 3,840,435 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,450,850 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 เม.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |