พระนาคปรก สธ. รุ่นสร้างพระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ 4 รอบ 84 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2543 พิมพ์ใหญ่ เนื้อเงินบริสุทธิ์ ชุบสามกษัตริย์แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน(สภาพ สวย )พิธีใหญ่ พุทธศิลป์งดงาม หายาก (1 ใน 1999 องค์)

#พระนาคปรก สธ.
รุ่นสร้างพระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ
4 รอบ 84 พรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2543
พิมพ์ใหญ่
เนื้อเงินบริสุทธิ์ ชุบสามกษัตริย์แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน
(สภาพ สวย )
พิธีใหญ่ พุทธศิลป์งดงาม หายาก
(1 ใน 1999 องค์)

+ตอกโค๊ตและตอกหมายเลขกำกับทุกองค์ เป็นพระนาคปรกที่จัดสร้างได้สวยงามและประณีตมาก

  ผลิตโดย บริษัทแพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด ( มหาชน )

 + รุ่นสร้างพระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ พุทธาภิเษก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2543

   ด้านหน้าเป็นตราสัญญลักษณ์ สธ. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

+จัดสร้างเพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ครบ 4 รอบ 48 พรรษาในปี 2546 วัดสิรินธรเทพรัตนาราม จ.นครปฐม

 +พิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ 19 กันยายน ปี2543

+จำนวนสร้าง 1,999 องค์ ตอกโค๊ตและตอกหมายเลขกำกับทุกองค์ เป็นพระนาคปรกที่จัดสร้างได้สวยงามและปราณีตมาก ผลิตโดย บริษัทแพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด ( มหาชน )

+พิมพ์ใหญ่ขนาด ความสูง 4 ซม. กว้าง 1.8 ซม.

 
*****ผู้ที่ชื่นชอบพระนาคปรก ไม่ควรพลาดรุ่นนี้ พิธีใหญ่ พิมพ์สวยงาม วัตถุประสงค์ดีมาก****

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างวัตถุมงคล

วัดสิรินธรเทพรัตนาราม ในพระราชูปถัมภ์ ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม สร้างขึ้นเพื่อเฉลิม

พระเกียรติใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้รับพระราชทานนามวัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ต่อมา

ปี พ.ศ.2541 ได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการให้ตั้งวัด และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาถูกต้องตามพระพุทธานุญาต

มาแต่ปี พ.ศ.2542 ทางคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งพระธรรมวราจารย์ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสิรินธรเทพรัตนาราม

วัดสิรินธรเทพรัตนาราม เริ่มก่อสร้างมาแต่ปี พ.ศ.2533 ใน 2 ปี แรกปรับปรุงสถานที่และก่อสร้างถนนภาพในวัด

และภายนอก พร้อมทั้งสร้างหอฉันและกุฏิสังฆ์ เพียงพอที่จะให้ภิกษุอยู่จำพรรษาประมาณ 20 รูป เพื่อศึกษาเล่าเรียนในระดับอุดมศึกษา

ด้านค่าก่อสร้าง ความเจริญเติบโตของวัดระยะ 10 ปีที่ผ่านมามีอาคารเรียน หอฉัน หอพัก ห้องสมุดและกุฏิสงฆ์เป็นต้น ประมาณ 30 หลัง เพียงพอที่จะรองรับพระภิกษุสามเณร 200 รูป ที่อยู่จำพรรษาและศึกษาเล่าเรียน

ด้านการศึกษา วัดสิรินธรเทพรัตนาราม ได้อนุญาตให้มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ใช้สถานที่เป็นที่ตั้งวิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย อันเป็นวิทยาเขตแห่งที่ 2 และรับพระภิกษุสามเณรเข้าศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งมีพระภิกษุสามเณร

จบการศึกษาถึง 4 รุ่น ได้ออกไปปฏิบัติศาสนกิจต่างจังหวัด และต่างประเทศ จนเป็นที่รู้จักกันดีในวงการพระพุทธศาสนา โดย เฉพาะปีการศึกษา 2543 จะรับพระภิกษุ สามเณร จำนวน 70 รูป

ด้านบริการสังคม วัดสิรินธรเทพรัตนราม จัดสรรที่ดินเพื่อสร้างอาคารเรียนและอาคารประกอบอื่นๆ สำหรับเด็กก่อน

วัยเรียน มาแต่ปี พ.ศ.2534 ต่อมาปี พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานนามว่า "ศูนย์เด็กเล็ก วิทยาเขตสิริธรราชวิทยาลัย" ให้

บริการรับเลี้ยงเด็กลูกคนงานในพื้นที่บริการ คือ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมและอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มี

อาคารเรียนถาวร 2 ชั้น 32 ห้องเรียน รับเด็กก่อนวัยเรียนได้ 990 คน มีครูพี่เลี้ยง 75 คน

ด้านการเผยแผ่ พระภิกษุนักศึกษา ได้ออกไปสอนจริยธรรมในโรงเรียนในกลุ่มลุ่มน้ำท่าจีนเกือบ 20 ปี ทั้งระดับประถมและมัธยมศึกษา

วัดสิรินธรเทพรัตนาราม ในพระราชูปถัมภ์ พิจารณาเห็นว่าควรจะสร้างอุโบสถ เพื่อใช้เป็นที่ประกอบสังฆกรรม

ทุกประเภท ตามพระพุทธบัญญัติ จึงดำเนินการออกแบบอุโบสถ เป็นศิลปะไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว อุโบสถที่สร้างขึ้นนี้เป็นอุโบสถทรงไทยชั้นดียว ขนาดกว้าง 18.00 เมตร ยาว 37.00 เมตร เพื่อจะน้อยถวายเป็นอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 48 พรรษา ในปี พ.ศ. 2546

การสร้างอุโบสถเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ จะต้องใช้ทุนพอสมควร จึงสร้างพระนาคปรกและพระกริ่งสิริโภคา โดยมี

จุดประสงค์ดังนี้

1. เพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ วัดสิรินธรเทพรัตนารามในพระราชูปถัมภ์

2. สมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์สร้างอาคารหอพัก พระภิกษุนักศึกษาจำนวน 84 ห้องนอน ณ วิทยาเขตสิรินธร

ราชวิทยาลัย ในพระราชูปถัมภ์

3. สมทบทุนมูลนิธิสิรินธรราชวิทยาลัย ใน พระราชูปถัมภ์

พิธีพุทธาภิเษก เดือนกันยายน 2543 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร

1.พระนาคปรก พิมพ์ใหญ่ เนื้อทองคำ แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน นน.ประมาณ 24.89 กรัม จำนวน 1,599 องค์

2.พระนาคปรก พิมพ์ใหญ่ เนื้อเงินบริสุทธิ์ ชุบสามกษัตริย์แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน  จำนวน 1,999 องค์

3.พระนาคปรก พิมพ์ใหญ่ เนื้อเงินบริสุทธิ์ แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน  จำนวน 1,999 องค์

4.พระนาคปรก พิมพ์ใหญ่ องค์พระทองคำ ฐานนาคปรกเนื้อนวโลหะ จำนวน 1,999 องค์

5.พระนาคปรก พิมพ์ใหญ่ องค์พระเนื้อนวโลหะ ฐานนาคปรกเนื้อเงิน จำนวน 1,999 องค์

6.พระนาคปรก พิมพ์เล็ก เนื้อทองคำ แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน นน.ประมาณ 8.59 กรัมจำนวน 1,599 องค์

7.พระนาคปรก พิมพ์เล็ก เนื้อเงินบริสุทธิ์ ชุบสามกษัตริย์แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน  จำนวน 2,999 องค์

8.พระนาคปรก พิมพ์เล็ก เนื้อเงินบริสุทธิ์ แบบพ่นทรายขัดเงาบางส่วน  จำนวน 2,999 องค์

นาคปรก เป็นชื่อเรียกพระพุทธรูปลักษณะนั่งสมาธิ และมีพญานาคแผ่หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียรของพระพุทธรูป แต่เดิมทำเป็นรูปพญานาคเป็นมนุษย์ มีรูปงู 7 หัวเป็นพังพานขึ้นจากไหล่ไปปรกพระเศียร (ศีรษะ) ในกิริยาที่พญานาคทำท่านมัสการพระพุทธเจ้า ต่อมาภายหลังทำพญานาคเป็นรูปงูขดตัวเป็นฐานตั้งพระพุทธรูปนั่งสมาธิบนตัวพญานาค และมีพังพานและหัวของพญานาค 7 เศียรปรกอยู่

   ครั้นพระพุทธองค์เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ร่มไม้อชปาลนิโครธสิ้น ๗ วัน แล้วพระองค์ก็เสด็จไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขยังร่มไม้จิก อันมีชื่อว่า มุจจลินท์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศอาคเนย์ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ วันนั้นเกิดฝนตกพรำอยู่ไม่ขาดสายตลอด ๗ วัน พญานาคมุจจลินท์ ผู้เป็นราชาแห่งนาค ได้ออกจากนาคพิภพ ทำขนดล้อมพระวรกาย ๗ ชั้น แล้วแผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเบื้องบน เหมือนกั้นเศวตฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย ทั้งป้องกันเหลือบ ยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย ครั้งฝนหายแล้ว พญามุจจลินท์นาคราชจึงคลายขนดจากที่ล้อมพระวรกายพระพุทธเจ้า จำแลงเพศเป็นมาณพน้อยยืนทำอัญชลีถวายนมัสการพระพุทธองค์ในที่เฉพาะพระพักตร์ ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเปล่งอุทานว่า "สุโข วิเวโก ตุฏฺฐัสสะ สุตะธัมมัสสะ ปัสสะโต อัพยาปัชชัง สุขัง โลเก ปาณะภูเตสู สัญญะโม สุขา วิราคะตา โลเก กามานัง สะมะติกฺกะโม อัสมิมานัสสะ วินะโย เอตัง เว ปะระมัง สุขัง ฯ" ความว่า "ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้มีธรรมอันได้สดับแล้ว รู้เห็นสังขารทั้งปวงตามเป็นจริงอย่างไร ความเป็นคนไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความเป็นคนปราศจากความกำหนัด คือความก้าวล่วงกามทั้งปวงเสียได้ เป็นสุขในโลกความนำออกเสียซึ่งอัสมินมานะ คือความถือตัวตนให้หมดได้นี้เป็นสุขอย่างยิ่ง"


   พระพุทธจริยาที่เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขภายในวงขนดของพญานาคมุจจลินท์นาคราชที่ขดแวดล้อมพระกายอยู่นี้ เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้นมา เรียกว่า ปางนาคปรก พระเครื่องปางนาคปรกนี้ นิยมสร้างเป็นพระนั่งบนขนดตัวพญานาคเหมือนเอานาคเป็นบัลลังก์ดูสง่า องอาจเป็นพระเกียรติอำนาจของพระองค์อย่างหนึ่ง ได้ลักษณะเป็นอย่างพระเจ้าของพราหมณ์ ถ้าจะรักษาลักษณะของพระพุทธรูปตามประวัติ ก็จะเป็นไปอีกในลักษณะหนึ่งคือ พระพุทธรูปจะมีพญานาคพันรอบพระวรกายด้วยขนดตัวพญานาคถึง ๔-๕ ชิ้น จนบังพระวรกายมิดชิด เพื่อป้องกันฝนและลม จะเห็นได้ก็เพียงพระเศียร พระศอ และพระอังสาเป็นอย่างมาก ทั้งเบื้องบนก็มีหัวพญานาคแผ่พังพานปกคลุมอีกด้วย