รหัสสินค้า | 003244 |
หมวดหมู่ | เหรียญพระพุทธ |
ราคา | 2,000.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
คงเหลือ | 1 ชิ้น |
จำนวน | ชิ้น |
#พระพุทธนวราชบพิตร ภปร.
ที่ระลึก 7รอบ 84พรรษา ในหลวงรัชกาลที่ 9
วัดตรีทศเทพ จัดสร้าง พ.ศ. 2554
เหรียญเนื้อเงินสภาพสวยกล่องเดิมครบ
ตอกโค๊ตและหมายเลข ๔๐๔๒
(1 ใน 9000 เหรียญ)
***นิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย
และความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์กับพสกนิกร***
ในปี ๒๕๕๔ นี้ นับเป็นปีมหามงคลเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา กอปรกับการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถหลังใหม่เสร็จสมบูรณ์ พร้อมที่จะประกอบพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองแห่งพระบวรพุทธศาสนาสืบไป คณะสงฆ์และคณะกรรมการวัดตรีทศเทพ จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้างเหรียญและพระพิมพ์ “พระพุทธนวราชบพิตร” จำลองแบบพระประธานในพระอุโบสถ และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญพระปรมาภิไธย “ภปร” ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ ประดิษฐานด้านหลังเหรียญและพระพิมพ์ดังกล่าว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นอกจากนี้ ยังได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ไฟพระฤกษ์” เพื่ออัญเชิญไปจุดเทียนชัยมหามงคลในพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดตรีทศเทพ ในวันอังคารที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เวลา ๑๖.๕๔ น. อีกด้วย
เหรียญและพระพิมพ์ “พระพุทธนวราชบพิตร” นี้ นับเป็นเหรียญมหามงคล นอกจากด้านหน้าจะเป็นองค์พระพุทธนวราชบพิตรแล้ว ด้านหลังยังประดิษฐานพระปรมาภิไธย "ภปร" ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ อันหาได้ยากยิ่ง นับเป็นเหรียญและพระพิมพ์ที่มีความงดงามอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ ยังได้รับประทานมวลสารจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และมวลสารศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อาทิ ช่อชนวนพระกริ่งพระพุทธนวราชบพิตร วัดตรีทศเทพ ปี ๒๕๓๐ ทองคำเปลวที่ลอกจากองค์พระประธานพระพุทธนวราชบพิตร เป็นต้น โดยจัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองคำ เนื้อนวโลหะ เนื้อเงินแท้ ซึ่งมีการตอกโค้ดและมีหมายเลขกำกับทุกเหรียญ รวมทั้งเนื้อทองแดงขัดเงา และพระพิมพ์ ผงพุทธคุณ ซึ่งตอกโค้ดทุกเหรียญทุกองค์
ด้วยความงดงามตลอดจนความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระประธาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้าง พระปรมาภิไธย “ภปร” ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เนื้อหามวลสาร ฯลฯ ส่งให้เหรียญและพระพิมพ์ “พระพุทธนวราชบพิตร” เป็นวัตถุมหามงคลอันทรงคุณค่าสูงส่ง โดยวัตถุมงคลรุ่นนี้จัดสร้างจำนวนจำกัด
นอกจากนี้ภายหลังทางผู้จัดสร้างได้นำวัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้นำมาทำรูปแบบเพิ่มเติมดังเอกสารที่ทางผู้จัดสร้างแจ้งดังนี้
ปี พ.ศ. 2554 วัดตรีทศเทพ ได้จัดสร้างพระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณและเหรียญพระพุทธนวราชบพิตร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา และเพื่อจัดหาทุนบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะ กุฏิสงฆ์ และศาสนวัตถุ โดยพระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณจำนวนหนึ่งจะบรรจุในพระเจดีย์ วัดตรีทศเทพ
มวลสารที่นำมาสร้างพระ ประกอบด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห มวลสารที่ใช้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังและสมเด็จบางขุนพรหม ทองคำเปลวที่ลอกจากองค์พระประธานในพระอุโบสถ ช่อฟ้าพระอุโบสถที่ชำรุด กระเบื้องพระอุโบสถที่ชำรุด โมเสกทองคำของพระเจดีย์ที่ชำรุด เม็ดกริ่งและชนวนพระกริ่งนวราชบพิตร ปี พ.ศ. 2530 ฯลฯ
พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณและเหรียญที่จัดสร้างขึ้น ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ ประดิษฐานด้านหลังองค์พระพิมพ์และด้านหลังเหรียญ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ อัญเชิญไฟพระฤกษ์พระราชทานจุดเทียนชัย มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคเข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถวัดตรีทศเทพ เมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
******นิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย และความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์กับพสกนิกร*****
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระอัครศาสนูปถัมภกในพระบวรพุทธศาสนา และทรงดำเนินรอยตามสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้โดยครบถ้วน ...
ในปี พ.ศ.2508 พระองค์ทรงมีพระราชดำริจัดสร้างพระพุทธรูป เพื่อพระราชทานเป็นพระประจำจังหวัดทั่วราชอาณาจักร โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ศาสตราจารย์ นายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ นายช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร ปั้นหุ่นพระพุทธรูป ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และทรงตรวจพระพุทธลักษณะด้วยพระองค์เองจนพอพระราชหฤทัยแล้ว จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เททองหล่อพระพุทธรูป เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2509 พระราชทานพระนามว่า “พระพุทธนวราชบพิตร”
พระพุทธนวราชบพิตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 23 ซม. สูง 40 ซม. ที่บัวฐานด้านหน้าบรรจุพระพิมพ์ ‘พระสมเด็จจิตรลดา’ ไว้องค์หนึ่ง ฐานขององค์พระมีอักขระบาลีจารึกไว้ว่า ‘ทยฺยชาติยา สามคฺคิยํ สติสญชานเนน โภชิสิยํ รกฺขนฺติ’ แปลว่า คนชาติไทยจะรักษาความเป็นไทยอยู่ได้ ด้วยมีสติ สำนึกอยู่ในความสามัคคี
จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “พระพุทธนวราชบพิตร” ให้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ประดิษฐาน ณ ศาลากลางจังหวัดของทุกจังหวัด และเป็นพระพุทธรูปประจำหน่วยทหาร ประดิษฐาน ณ กองบัญชาการหน่วยทหาร
โดย ‘สำนักพระราชวัง’ ได้ประกาศระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับ “พระพุทธนวราชบพิตร” ไว้ดังนี้
1. เมื่อจังหวัดใดได้รับพระราชทานไปแล้ว ให้ประดิษฐานพระพุทธรูปนั้นไว้ ณ ที่อันควรในศาลากลางจังหวัด
2. เมื่อทางจังหวัดมีงานพิธีใดๆ ซึ่งต้องตั้งที่บูชาพระรัตนตรัย ก็ให้อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรมาประดิษฐานเป็นพระบูชาในพิธีนั้นๆ ทั้งนี้ยกเว้นพิธีที่กระทำในโบสถ์ วิหาร หรือปูชนียสถานใดๆ ซึ่งมีพระประธานหรือมีปูชนียวัตถุอื่นใดเป็นประธานอยู่แล้ว และยกเว้นพิธีซึ่งต้องใช้พระพุทธรูปอื่นเป็นประธานโดยเฉพาะ เช่น พระพุทธคันธารราษฎร์
3. เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัด เพื่อทรงเป็นประธานพระราชพิธีหรือพิธีทางจังหวัดก็ดี ก็ให้ทางจังหวัดอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพระราชพิธีและพิธีนั้นๆ ทุกครั้ง หากพระราชพิธีหรือพิธีนั้นๆ กระทำในพระอารามหรือในปูชนียสถาน ซึ่งมีพระประธานหรือปูชนียวัตถุอื่นใดเป็นประธานอยู่แล้ว ก็ให้อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรไปประดิษฐาน ณ ที่บูชาเป็นต่างหากอีกที่หนึ่ง เพื่อทรงนมัสการ
4. เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ณ จังหวัด ให้ทางจังหวัดอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรไปประดิษฐานไว้ ณ ที่บูชา เพื่อทรงนมัสการในพลับพลาหรือที่ประทับซึ่งได้จัดไว้ ในกรณีนี้ หากท้องที่ที่เสด็จพระราชดำเนินนั้นห่างไกลจากศาลากลางจังหวัด และเป็นที่ทุรกันดารไม่สะดวกแก่การคมนาคม หรือการเสด็จพระราชดำเนินนั้นเป็นการรีบด่วน หรือเพียงเป็นการเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ทางจังหวัดจะพิจารณาให้งดเสียก็ได้ ตามแต่จะเห็นควร
5. เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปประทับแรม ณ จังหวัด ให้ทางจังหวัดอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรมาประดิษฐานไว้ ณ ที่บูชา ในพลับพลา หรือในที่ประทับ ตลอดเวลาที่ประทับแรมอยู่ และให้อัญเชิญกลับไปยังศาลากลางจังหวัดเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว ในการนี้ ให้กองมหาดเล็กปฏิบัติเช่นเดียวกับระเบียบแบบแผนที่มีอยู่แล้วเกี่ยวกับพระชัยนวโลหะประจำรัชกาล
6. หากทางจังหวัดเห็นสมควรจะอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรออกให้ประชาชนได้นมัสการบูชาในงานเทศกาลใดๆ ก็ให้กระทำได้ตามแต่จะเห็นควร อนึ่ง การปิดทองที่องค์พระพุทธรูปนั้น อาจทำให้พระพุทธรูปเสียความงามไปบ้าง ถ้าหากทางจังหวัดจะประดิษฐานพระพุทธนวราชบพิตรบนฐานซึ่งทำด้วยวัตถุอันอาจปิดทองได้อีกชั้นหนึ่งให้ประชาชนได้ปิดทองได้ ก็จะเป็นการเหมาะสมยิ่งขึ้น
จังหวัดแรกที่ได้รับพระมหากรุณาพระราชทาน “พระพุทธนวราชบพิตร” คือ จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2510 ในโอกาสนั้น พระองค์มีพระราชดำรัสแก่ชาวจังหวัดหนองคาย มีความสำคัญที่ขออัญเชิญมาเฉพาะบางตอน ดังนี้
“... ข้าพเจ้ามาเยี่ยมท่านคราวนี้ ได้นำพระพุทธนวราชบพิตรมามอบให้ด้วย พระพุทธรูปองค์นี้ข้าพเจ้าสร้างขึ้นเพื่อมอบไว้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ที่ฐานบัวหงายข้าพเจ้าได้บรรจุพระพิมพ์องค์หนึ่ง ซึ่งทำขึ้นด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ อันได้มาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร ...
... พระพุทธนวราชบพิตรองค์นี้ นอกจากจะถือว่าเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพสูงสุดแล้ว ข้าพเจ้ายังถือเสมือนเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศไทย และความสามัคคีกลมเกลียวกันของประชาชนชาวไทยอีกด้วย ข้าพเจ้าจึงได้บรรจุพระพิมพ์ที่ทำขึ้นด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ทั่วราชอาณาจักรดังกล่าว และนำมามอบให้แก่ท่านด้วยตนเอง ...
ขออานุภาพแห่งพระพุทธนวราชบพิตร จงปกปักรักษาท่านให้พ้นจากทุกข์ภัยทุกๆ ประการ บันดาลให้เกิดความสุขสวัสดี มีความก้าวหน้ารุ่งเรืองในการประกอบอาชีพ และมีความสมัครสมานกัน ในอันที่จะร่วมกันสร้างเสริมความมั่นคง และความเจริญก้าวหน้าให้แก่บ้านเมืองของเราสืบไป”
พระพุทธนวราชบพิตร นอกจากจะเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังเป็นนิมิตหมายแห่งความผูกพัน ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระหว่างพระมหากษัตราธิราชกับบรรดาพสกนิกรของพระองค์ ในทุกจังหวัดทั่วพระราชอาณาจักรอีกด้วยครับผม
โดย อ.ราม วัชรประดิษฐ์
หน้าที่เข้าชม | 3,839,401 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,449,816 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 เม.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |