เหรียญรัชกาลที่ 5 ที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ 100 ปี สภากาชาดไทย ปี 2536 เนื้อทองแดง ขนาด 7 cm พร้อมกล่องบรรจุเดิม

#เหรียญที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ 100 ปี สภากาชาดไทย

เนื่องในโอกาสที่สภากาชาดไทย มีอายุครบ 100 ปี ในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2536 โดยถือเอาวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งสภาอุณาโลมแห่งชาติสยามขึ้น ซึ่งถือเป็นปฐมกำเนิดของสภากาชาดไทยในปัจจุบัน และนับเป็นองค์กรการกุศลสาธารณะสงเคราะห์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

สภากาชาดไทยได้จัดทำเหรียญที่ระลึกสำหรับมอบให้ผู้บริจาคเงินเพื่อนสมทบทุนสร้างตึกนวมินทราชินี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ชนิดโลหะ ทองแดงรมดำ

น้ำหนัก 150 กรัม

เส้นผ่าศูนย์กลาง 70 มิลลิเมตร

จำนวนผลิต 8000 เหรียญ

ด้านหน้า  กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชิดวงขอบเหรียญมีข้อความว่า "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดสภาอุณาโลมแดงแห่งชาติสยาม"

ด้านหลัง  กลางเหรียญมีรูปอาคารที่ทำการของสภาอุณาโลมแดงฯ ด้านบนมีสัญลักษณ์ของสภาอุณาโลมแดงฯ และมีข้อความ "สภาอุณาโลมแดงฯ" สัญลักษณ์ของสภากาชาดไทยและข้อความ "สภากาชาดไทย" ชิดวงขอบเหรียญด้านบนมีข้อความว่า "๑๐๐ ปี สภากาชาดไทย พ.ศ.๒๔๓๖-๒๕๓๖" ด้านล่างมีข้อความว่า "1893-1993" "THAI RED CROSS CENTENARY"

เมื่อ พ.ศ. 2436 ได้เกิดกรณีพิพาทระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศสในเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง จากการสู้รบดังกล่าวทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ในเวลานั้นประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานการกุศลสำหรับทำหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ได้รับความเดือดร้อน ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงษ์ จึงเป็นหัวหน้านำบรรดาผู้หญิงไทยกลุ่มหนึ่ง กราบบังคมทูลพระกรุณาสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เพื่อทรงจัตั้งกองการกุศลสำหรับช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ

"สภาอุณาโลมแดงแห่งชาติสยาม" จึงได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2436 โดยอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ทรงรับเป็นองค์สภานายิกา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาพยาบาลและช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ภัยแก่ผู้บาดเจ็บ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรี่ยไรเงินช่วยเหลือได้ทั้งสิ้น 443,716 บาท

ต่อมาแม้ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่สภาอุณาโลมแดงฯ ยังคงดำเนินงานเรื่อยมา โดยมุ่งเน้นในเรื่องการจัดหาสถานที่ทำการ และสถานพยาบาลเป็นสำคัญ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงพยาบาลสภาชาดไทย โดยได้รับเงินสนับสนุนจากเงินกองทุนสภากาชาดสยามและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า "โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์" ตามพระนามเดิมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและได้เปิดอย่างเป็นทางเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ต่อมาได้มีการตราพระราชบัญญัติว่าด้วยสภากาชาดไทย ปี พ.ศ. 2461 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งในยามสงบและยามศึกสงคราม รวมทั้งบรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์สาธารณภัยต่าง ๆ โดยไม่เลือกชาติ ชั้น วรรณะ ศาสนา หรืออุดมการณ์ทางการเมือง ทั้งนี้ โดยให้ยึดหลักมนุษยธรรมเป็นที่ตั้ง ซึ่งมีผลทำให้สภากาชาดไทยได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2463 และได้เข้าเป็นสมาชิกของสันนิบาตกาชาด ในปี พ.ศ. 2464

สภากาชาดไทยได้พัฒนาและขยายงานให้กว้างขวางมาโดยลำดับ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งให้ความร่วมมือกับสภากาชาดต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนเนื่องจากสาธารณภัยต่าง ๆ

ในปัจจุบันสภาชาดไทยอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงดำรงตำแหน่งองค์สภานายิกามีกรรมการสภากาชาดไทยเป็นองค์กรบริหาร และมีหน่วยงานระดับกองทั้งสิ้น 12 หน่วยงาน รับผิดชอบการปฏิบัติภารกิจตามลักษณะงานของสภากาชาดไทย