เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)

เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)
เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)
รหัสสินค้า 000951
หมวดหมู่ เหรียญที่ระลึกพระมหากษัตริย์ และบุคคลสำคัญ
ราคา 0.00 บาท
คงเหลือ 0 ชิ้น
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

#เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ(ร.1) วัดพระเชตุพนฯ ปี 2510 เนื้อเงินพร้อมกล่องบรรจุเดิมหายาก(ในหลวงรัชกาลที่9 เสด็จเททอง)

 

-เหรียญพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 อีกหนึ่งยอดวัตถุมงคล วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ปี 2510 พิธีเดียวกับพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าฯ หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเต๋ หลวงพ่อมุ่ย หลวงปู่ธูป ฯลฯ ปลุกเสก เนื้อเงินแท้ สภาพสวย..ผิวเดิมๆ  มาพร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสสิคหายาก

เหรียญมีขนาดกว้างประมาณ 2.4 ซม. สูงประมาณ 3.0 ซม.

 

"พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้า" จัดสร้างด้วยพิธีกรรมอันเข้มขลังดีทั้งนอกและดีทั้งในพร้อมสูงค่าด้วยโลหะ "ทองคำ" อันเป็นโลหะที่สูงค่าที่สุดของโลกและมีการลง "อักขระเลขยันต์มงคล" พร้อมบรรจุพระพุทธคุณโดยพุทธาภิเษกตลอด ๓ เดือน แห่งการเข้าพรรษาตามตำราโบราณของ "สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว" ทุกประการและหลังจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเททองและทำการตกแต่งพร้อมบรรจุเม็ดกริ่งแล้วก็ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งพร้อมกับนำ "ทองชนวน" ที่เหลือกับทองคำอีกจำนวนหนึ่งที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกตลอดพรรษากาลเช่นกันเพื่อนำไปจัดสร้าง "เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" โดยมอบหมายให้ กองกษาปณ์กรมธนารักษ์ รับดำเนินการโดยแบ่งเป็น ๒ รูปลักษณะดังนี้ "เหรียญทองคำ" และเหรียญเงิน" ทำเป็น "รูปทรงเสมา" ส่วน "เหรียญทองแดง" ทำเป็น "รูปทรงกลม" ด้านหน้าเป็น "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" ครึ่งพระองค์และทรงฉลองพระองค์ "จักรพรรดิบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์" ในลักษณะนูนต่ำมีความสวยงามคมชัด ส่วนด้านหลังเป็นตราสัญลักษณ์ "มูลนิธิพระพุทธยอดฟ้า" ที่ "พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" ทรงมี พระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเป็นรูป "พระมหาพิชัยมงกุฎ" ครอบตา "พระมหาจักรี" มีอักษรความว่า "วัดพระเชตุพน

 

 

ในปี พ.ศ.2508-2509 เจ้าอาวาสวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ท่าเตียน ในขณะนั้น คือ สมเด็จพระวันรัตซึ่งต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ” (ปุ่น ปุณณสิริมหาเถร) ก็ทรงรับรู้ปัญหาและความจำเป็นในการหาทุนมาสนับสนุนการบูรณะพระอารามอันดับหนึ่งของประเทศ จึงทรงมีพระดำริจัดตั้ง มูลนิธิขึ้นเพื่อนำดอกผลมาเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะพระอารามต่อไป จึงดำเนินการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต โดยความช่วยเหลือของ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าธานีนิวัต กรมหมื่นพิทยลาภพฤติยากรประธานองคมนตรีในขณะนั้น นำความขึ้นบังคมกราบทูลเกล้าถึงความจำเป็นซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตและพราชทานนามมูลนิธิว่า มูลนิธิพระพุทธยอดฟ้าพร้อมทั้งรับไว้ในพระบรมราชูปถัมถ์อีกด้วย

 

สมเด็จพระวันรัตจึงจัดประชุมกรรมการหลายฝ่ายถึงเรื่องระดมทุนมาจัดตั้งเป็น กองทุนมูลนิธิผลการประชุมมีมติให้จัดงาน ทอดผ้าป่ามหากุศล 84,000 องค์พร้อมทั้งมีการจัดทำ ของที่ระลึกสมนาคุณแก่ผู้บริจาคเพราะจะทำให้ให้มีรายได้เข้ากองทุนมากขึ้น โดยสร้างเป็นวัตถุมงคลคือ พระกริ่งและ เหรียญ

 

สำหรับ พระกริ่งที่ประชุมยังมีมติอีกว่า ควรจัดสร้างด้วย เนื้อทองคำน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 บาท สำหรับสมนาคุณผู้บริจาคตั้งแต่ 5,000 บาท (ห้าพันบาท)ขึ้นไป และควรสร้างจำนวนจำกัดคือ 1,250 องค์อันเป็นจำนวนเท่ากับ พระวิสุทธิสงฆ์องค์อรหันต์ที่มาประชุมพร้อมกันเป็นมหาสันนิบาตในวันมาฆปุรณมีเพ็ญเดือนสาม ซึ่งเรียกว่า วันจาตุรงคสันนิบาตโดยขอบารมีธรรม ของพระอรหันต์เหล่านั้นมารวมไว้ที่ พระกริ่งอันเป็น ปฏิมาของ พระพุทธเจ้าโดยตกลงกันว่าควรถวายพระนามว่า พระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าด้วยมูลเหตุที่มูลนิธินี้ได้รับพระราชทานนามว่า มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้าดังนั้นเพื่อให้สมกับพระนามจึงสร้างด้วย เนื้อทองคำเพียงเนื้อเดียว

 

ครั้นตกลงกันเป็นมติเอกฉันท์จึงจัดหาทองคำนำมารีดเป็นแผ่นบาง 108 แผ่นสำหรับลงอักขระ ยันต์ 108และอีก 14 แผ่นสำหรับลงอักขระ นะปถมัง 14 นะตามตำราของ สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วกรุงเก่าที่ตกทอดมายัง สมเด็จพระพนรัตน์ปฐมอธิบดีสงฆ์องค์แรกของ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามผู้เป็นพระอาจารย์เจ้าใน สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตโนรสและมีการคัดลอกลงในสมุดไทยดำแล้วตกทอดไปยัง วัดบวรนิเวศวิหาร วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดสุทัศน์เทพวรารามและวัดเทพธิดารามเป็นต้น และหลังจาก แผ่นทองคำทั้งหมดทำการลงอักขระยันต์แล้วจึงนำมารวมกับทองคำอื่น ๆ ที่มีประชาชนร่วมบริจาคเพื่อหล่อพระไว้ในพระอุโบสถที่มีการจุดตั้ง พระวัตรฉัตรธงโดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ตลอดเวลา 3 เดือน แห่ง ปุริมเข้าพรรษาซึ่งท่านเจ้าคุณ พระเทพวรมุนี” (ฟุ้ง ปุณณโก) เป็นหัวหน้าในการนำสวดพระพุทธมนต์บทต่าง ๆ อาทิ ชินบัญชรคาถา ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร โพชฌงค์ปริตร เจ็ดตำนาน มงคลจักรวาล ฯลฯ

 

จนกระทั้งถึงวันอาทิตย์ แรม 8 คำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2509 อันเป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีพระราชทานถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเป็นโบราณราชประเพณีทุกปี ซึ่งวันนั้นได้เสด็จฯเป็น วัดที่ 3” (วัดแรกคือวัดมกุฎฯ) ซึ่งในบันทึกพระนิพนธ์เรื่อง มูลนิธิทุนพระทุทธยอดฟ้าในพระบรมราชูปถัมถ์ของ สมเด็จพระสังฆราช” (ปุ่น ปุณฺณสิริมหาเถร) ได้บันทึกความสำคัญในวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จฯทรงประกบพิธีเททองหล่อพระกริ่งพระพุทธยอดฟ้าไว้ดังนี้

 

วันนี้เป็นวันที่ทรงเครื่องยศใหญ่ เสนามาตย์ราชบริพารแต่งตัวเต็มยกทุกคนที่มารับเสด็จฯ และจะหาวันไหนเป็นโอกาสสอนเป็นมงคลยิ่งเสมอวันนี้ยากนัก เพราะวันแรม 8 ค่ำเป็นวันอาทิตย์นั้น ได้รับความนิยมว่าเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่ จะหาวันที่เป็นมิ่งมงคลเช่นนี้ไม่ง่ายนักในขวบปีหนึ่ง โบราณ จึงเขียนไว้เป็นแบบว่า

 

จันทร์ตรีศรีสิทธิเก้า ภุมเมทร์

พุธทวัชอัฏฐสุรเยนทร์ เลศลัน

พฤหัสบดิ์จตุรเกณท์ ศุกร์ค่ำ หนึ่งนา

เสาร์ห้าสถาพรพัน โชคใช้ได้เสมอ

 

โดยมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณนั่งปรกปลุกเสกประกอบด้วย

1.หลวงพ่อเงินวันดอนยายหอม

2.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

3.หลวงพ่อมุ่ย วัดอนไร่

4.หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

5.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์

6.หลวงปู่ธูป วันแคนางเลิ้งฯล เป็นต้น

ขอบพระคุณที่มาข้อมูล:หนังสือมหามงคลแห่งแผ่นดิน

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็ลทรัล รัตนาธิเบศร์ ออมทรัพย์

CATEGORY

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม3,840,435 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด2,450,850 ครั้ง
เปิดร้าน25 เม.ย. 2558
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

CONTACT US

086-666-2757
เพิ่มเพื่อน
พูดคุย-สอบถาม