พระกริ่งวัชระ วัดนิคมวชิราราม อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รุ่นแรก ปี2513 เนื้อนวโลหะ อ.ไสว เป็นเจ้าพิธี สุดยอดเกจิร่วมปลุกเสก

#พระกริ่งวัชระ วัดนิคมวชิราราม อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รุ่นแรก ปี2513 เนื้อนวโลหะ อ.ไสว เป็นเจ้าพิธี สุดยอดเกจิร่วมปลุกเสก

พระกริ่งรุ่นนี้แกะบล็อกและออกแบบ โดยนายช่างเกษม มงคลเจริญ มีพระอาจารย์ไสว วัดราชนัดดาเป็นเจ้าพิธีและเป็นผู้ผสมเนื้อโลหะ เต็มสูตร  ยาแดงขัดเดิมๆ ใต้ฐานมีฝาอุด และตอกโค๊ตไว้ กันการปลอมแปลงครับ องค์นี้สวยเดิมๆ ไม่ได้พบเจอมานานแล้วครับ  แต่ราคายังถือว่ายังจับต้องได้เล่นหาถูกกว่าพระกริ่งรุ่นออกใหม่ๆซะอีกครับ แนะนำ

โดยหลวงพ่อหวล วัดนิคมวชิราราม นิมนต์เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคร่วมปลุกเศก อาทิเช่น

- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

- หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

- หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ

- หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

- หลวงพ่ออินทร์ วัดยาง และท่านอื่นๆ ฯลฯ

โดย พระเกจิชื่อดังของสายเพชรบุรีทั้งหมดมาร่วมพุทธาภิเษกในงานผูกพัทธสีมาของวัด

สำหรับพระกริ่งรุ่นนี้ ถือเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรก หลวงพ่อหวล จัดสร้างในงานผูกพัทธสีมา พ.ศ.2513 เป็นพระกริ่งแบบหล่อฉีดเรียกพระกริ่งวัชระ สร้าง 
-เนื้อทองคำ 
-เนื้อเงิน 
-เนื้อนวโลหะ

หลวงพ่อหวล หรือ พระญาณโมลี(ปีพ.ศ.2552 อายุ 85 ปีพรรษาที่ 65)

'พระญาณโมลี' หรือ 'หลวงพ่อหวล ยติธัมโม' เจ้าอาวาสวัดนิคมวชิราราม ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองเพชรบุรี มีเมตตาธรรมสูง มีพลังจิตที่เข้มข้น แก่กล้า เชี่ยวชาญวิทยาคม

ท่าน เป็นศิษย์ผู้ได้รับการสืบทอดไสยเวทพุทธาคมจากพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังหลาย ท่าน อาทิ หลวงพ่อทองศุข อินทโชโต วัดโตนดหลวง ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี, หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น นามของท่านจึงขจรขจายไปไกลทั่วภาคตะวันตก

อัต โนประวัติ มีนามเดิมว่า หวล เสือสะอาด ถือกำเนิดวันที่ 9 กรกฎาคม 2467 ที่บ้านชะอำ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายแฮต และ นางปุ้ย เสือสะอาด จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบำรุงวิทยากรุงเทพฯ อาชีพทำนาและรับจ้าง

เมื่อ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดชะอำคีรี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2487 โดยมี พระครูพินิจสุตคุณ (หลวงพ่อทองศุข อินทโชโต) วัดโตนดหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการสุทธิ วัดพระทรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเช้า วัดชะอำคีรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ยติธัมโม

ครั้นอุปสมบทแล้วได้อยู่จำพรรษาที่วัดชะ อำคีรี ศึกษาพระธรรมวินัย เรียนนักธรรม สอบ ได้นักธรรมเอก ต่อมาในปี พ.ศ.2546 ได้รับปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันราชภัฏนครปฐม จ.นครปฐม

ในด้านการศึกษาพุ ทธาคม ภายหลังได้ศึกษาเล่าเรียนนักธรรมแล้ว หลวงพ่อหวล ได้เดิน ทางไปมาหาสู่หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ศึกษาเล่าเรียน สมถกัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน อีกทั้งวิทยาคมต่างๆ

หลวงพ่อหวลยังได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมสายวิชาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จากพระอธิการสุทธิ วัดพระทรง อ.เมือง จ.เพชรบุรี

ด้วย พระเกจิอาจารย์สายเพชรบุรี มีปรมา จารย์ดังอยู่หลายรูป เช่น หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ (เดิมอยู่วัดปากทะเล) หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม หลวงพ่อแช่ม วัดนายาง พระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการถ่ายทอดต่อเนื่องกันมา

ทำให้เพชรบุรี มีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงสืบทอดต่อเนื่องมิขาดสาย เช่น หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม วัดตาลกง เป็นต้น

จึง ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่างใดที่หลวงพ่อหวล ได้รับความเชื่อถือจากศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือว่ามีวิทยาคมเข้ม ขลัง ทั้งด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม เชี่ยวชาญการปลุกเสกวัตถุมงคล และเชี่ยวชาญการทำผงพุทธคุณ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิติปิโสรัตนมาลา ฯลฯ

ลำดับ งานปกครอง พ.ศ.2498 เป็นเจ้าอาวาสวัดนิคมวชิราราม พ.ศ. 2502 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2515 เป็นเจ้าคณะอำเภอชะอำ พ.ศ.2549 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอชะอำ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามพระครูปริยัตยานุโยค

พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระญาณโมลี

หลวง พ่อหวล ยังเป็นพระนักพัฒนาชุมชน ให้การช่วยเหลือสังคม ชาวบ้าน สร้างวัดสร้างศาสนสถาน สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาลบริจาคโลหิต น้อมนำชาวบ้านสร้างความดี

หลวง พ่อหวล เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งโครงการบริจาคโลหิตของคณะสงฆ์อำเภอชะอำ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 จนได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 1 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ได้รับการยกย่องว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีบารมีทางกระแสจิตแก่กล้า ระดับแนวหน้าของจังหวัดเพชรบุรีท่านหนึ่ง

หลวงพ่อหวล ยติธัมโม พระเกจิดังเมืองเพชรบุรี  คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 (จากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ออนไลน์ 19 ธันวาคม 2553)