เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายาก

เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายาก
เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายากเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายาก
รหัสสินค้า 000945
หมวดหมู่ เหรียญที่ระลึกขนาดใหญ่
ราคา 0.00 บาท
คงเหลือ 0 ชิ้น
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

#เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2514 เนื้อทองฝาบาตร พิมพ์ใหญ่ 7.5 ซม. พร้อมกล่องบรรจุเดิมสุดคลาสิกหายาก

เหรียญ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า 2 พระองค์ คือสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวิรยาลงกรณ์ และสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จัดสร้างเพื่อใช้เป็นเหรียญที่ระลึกสำหรับงานมหาสมณานุสรณ์ ครบ 50 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ฯ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จัดขึ้น ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2514 โดยมีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมพระเกียรติของพระองค์ท่าน สภาพสวยเดิม จัดเป็นเหรียญดี พิธีใหญ่ อีกเหรียญที่น่าบูชาและหายาก

 

ประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

 

สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ และเจ้าจอมมารดาแพ ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ ปีวอก จ.ศ. ๑๒๒๑ ตรงกับวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๐๓ เมื่อวันประสูติ นั้นฝนตกใหญ่ พระบรมชนกนาถจึงทรงถือเป็นมงคลนิมิตพระราชทานนามว่า พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ หลังจากประสูติได้เพียงปีเดียว เจ้าจอมมารดาของพระองค์ก็ถึงแก่กรรมพระองค์จึง ทรงอยู่ในความเลี้ยงดูของกรมหลวงวรเสฐสุดา (พระองค์เจ้าบุตรี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ซึ่งเป็นพระญาติ ทรงเรียกว่าเสด็จป้า มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ต่อมา ทรงย้ายมาอยู่กับท้าวทรงกันดาร (ศรี) ผู้เป็นยาย

เมื่อพระชนมายุ ๘ พรรษา ทรงเริ่มศึกษาภาษาบาลี ทรงศึกษาอยู่จนสามารถแปลธรรมบทได้ก่อนที่จะทรงผนวชเป็นสามเณร และทรงเริ่มศึกษาภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งเมื่อพระชนมายุ ๑๒ พรรษา นอกจากนี้ ยังทรงศึกษาโหราศาสตร์กับครูที่เชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์มาแต่พระชนม์ยังน้อย

เมื่อพระชนมายุ ๑๔ พรรษา ทรงผนวชเป็นสามเณรตามราชประเพณี ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับเจ้านายอื่นอีก ๒ พระองค์ สมเด็จพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์หม่อมเจ้าพระธรรมุณหิศธาดา (พระนามเดิม ศิขเรศ) เป็นประทานสรณะและศีล เมื่อทรงผนวชแล้ว มาประทับ ณ วัด บวรนิเวศวิหาร ทรงผนวชเป็นสามเณรอยู่ ๒ เดือนเศษ จึงทรงลาผนวช

ครั้น พระชนมายุ ๒๐ พรรษา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๒๒ สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์พระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันทรังสี) วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ทรงผนวชแล้วเสด็จมาอยู่จำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ถึงหน้าเข้าพรรษาของปีนั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาทรงถวายพุ่มพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตามราชประเพณี และในคราวนั้น ได้เสด็จฯ ไปถวายพุ่มพรรษาแด่พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ ซึ่งเพิ่งทรงผนวชใหม่ถึงกุฏิที่ประทับ พร้อมทั้งทรงกราบด้วยพระอาการเคารพ อันเป็นพระอาการที่ไม่เคยทรงปฏิบัติต่อพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์อื่นที่ทรงผนวช เป็นเหตุให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระองค์นั้นทรงตัดสินพระทัยไม่ทรงลาผนวชแต่วันนั้น

หลังจากทรงจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ๑ พรรษาแล้ว ได้เสด็จไปจำพรรษาที่ ๒ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ในสำนักของพระจันทโคจรคุณ (ยิ้ม) ผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในระหว่างที่ประทับ ณ วัดมกุฏกษัตริยารามนั้นเอง ได้ทรงทำทัฬหีกรรม อุปสมบทซ้ำอีกครั้งหนึ่งตามธรรมเนียมนิยมของพระสงฆ์ธรรมยุตในครั้งนั้น โดยพระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมไตรโลกาจารย์ (เดช ฐานจาโร) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่ครั้งยังเป็นพระเปรียญอยู่วัดโสมนัสวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ณ โบสถ์แพ หน้าวัดราชาธิวาส เมื่อ วันที่ ๓ มกราคม ๒๔๒๒

เมื่อทรงผนวชได้ ๓ พรรษา ทรงเข้าแปลพระปริยัติ ธรรมหน้า พระที่นั่ง ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตมโหราฬ ห้องเขียวท่ามกลางประชุมพระราชาคณะผู้ใหญ่ ๑๐ รูป มีสมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นประธาน ทรงแปลได้เป็นเปรียญ ๕ ประโยค และทรงหยุดอยู่เพียงนั้น

หลังจากทรงแปลพระปริยัติธรรมได้เป็น เปรียญ ๕ ประโยคแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระอิศริยยศเป็น กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ทรงดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะรองในธรรมยุตินิกาย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔ พระองค์ทรงเป็นเจ้าคณะรองในคณะธรรมยุตเป็นพระองค์แรกและทรงเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ทรงมีพรรษา ยุกาลน้อยที่สุด คือ ๓ พรรษาเท่านั้น

พ.ศ.๒๔๓๔ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์สิ้นพระชนม์พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดให้สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรสขณะเมื่อทรงดำรงพระอิศริยยศ เป็นกรมหมื่น ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหารสืบต่อจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ นับเป็นเจ้าอาวาสพระองค์ที่ ๓

ครั้น ปี พ.ศ. ๒๔๓๖ ทรงพระกรุณาโปรดเลื่อนพระสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต นับเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตพระองค์ที่ ๒ ทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตเมื่อทรงมีพรรษายุกาล ๑๕ พรรษา

เมื่อทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารแล้ว ก็ได้ทรงเริ่มพัฒนากิจการพระศาสนา โดยทรงเริ่มทำขึ้นภายในวัดบวรนิเวศวิหารก่อนเป็นการทดลองเพื่อดูผลได้ผลเสียและทรงปรับปรุงแก้ไขจนทรงเห็นว่า มีผลดีเป็นคุณประโยชน์แก่พระศาสนาเป็นส่วนรวม จึงทรงขยายออกในวงกว้าง กล่าวเฉพาะที่สำคัญ คือ

ทรงริเริ่มให้ภิกษุสามเณรที่บวชใหม่เล่าเรียนพระธรรมวินัยในภาษาไทย เพื่อให้รู้จักพระพุทธศาสนาทั้งส่วนที่เป็นธรรม และวินัยในขั้นพื้นฐานในชั่วระยะเวลาอันสั้น โดยพระองค์ได้ทรงสอนด้วยพระองค์เอง มีการสอบความรู้ของภิกษุสามเณรที่เรียนด้วยวิธีสอบแบบใหม่คือวิธีเขียน ต่อมาได้มีภิกษุสามเณรไม่เฉพาะแต่พระใหม่เท่านั้นที่นิยมเล่าเรียนพระธรรมวินัยแบบใหม่ที่พระองค์ทรงจัดขึ้นนี้ และนิยมแพร่หลายออกไปถึงวัดอื่นๆ ด้วย เมื่อทรงเห็นว่าเป็นการเล่าเรียนที่มีประโยชน์ต่อภิกษุสามเณรทั่วไป จึงได้ทรงกำหนดให้เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับคณะสงฆ์ในเวลาต่อมา ที่เรียกว่า นักธรรมซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของคณะสงฆ์สืบมาจนปัจจุบัน เป็นการศึกษาพระปริยัติธรรมในภาษาไทยคู่กับการศึกษาพระปริยัติธรรมในภาษาบาลีที่มีมาแต่โบราณ

วิธีการชำระเงิน

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็ลทรัล รัตนาธิเบศร์ ออมทรัพย์

CATEGORY

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม3,840,435 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด2,450,850 ครั้ง
เปิดร้าน25 เม.ย. 2558
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

CONTACT US

086-666-2757
เพิ่มเพื่อน
พูดคุย-สอบถาม